ชาวบ้านตอเรือ ม. 13 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พาสื่อบุกสำรวจสิ่งมหัศจรรย์ ก้อนหินขนาดใหญ่ ซ้อนเทินกันหลายสิบก้อน บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ เชื่อเป็น Unseen พิษณุโลก พร้อมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่ป่าหินเทิน ตั้งอยู่ที่บ้านตอเรือ หมู่ 13 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งมีพื้นที่กว่า 200 ไร่ ลักษณะเป็นป่าที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ แต่มีสิ่งมหัศจรรย์ที่แปลกกว่าป่าอื่น ๆ คือ ในป่าแห่งนี้ จะมีก้อนหินขนาดใหญ่ ซ้อนเทินกันเองตามธรรมชาติ จำนวนหลายสิบก้อน หรืออาจจะมากกว่านั้น เนื่องจากชาวบ้านแจ้งว่า ยังทำการสำรวจได้ไม่ทั่วทั้งป่า
นายคำเงิน แก้วอินทิม ผู้ใหญ่บ้าน และนายทองสุข สุริยาโส ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปสำรวจ ก้อนหินดังกล่าว ซึ่งการเดินทางหลังจากจอดรถที่จุดจอดแล้ว ต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าประมาณ 50 เมตร ก็จะพบลานหิน ที่ชาวบ้านเรียกว่า ลานหินเทิน ตลอดเส้นทางที่เดินเข้าไป จะเป็นทุ่งหญ้าสลับกับต้นไม้ใหญ่ จุดแรกที่ชาวบ้านพาไปชม ชาวบ้านตั้งชื่อกันว่า อ่างกินนรี ลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ซ้อนเทินกัน 3 ชั้น ความกว้างของก้อนหิน ขนาดประมาณ 20 คนโอบ ที่ชาวบ้านตั้งชื่อหินเทินจุดนี้ว่า อ่างกินนรี ก็เนื่องจาก ชั้นบนสุดของก้อนหิน มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำ เวลาหน้าฝนน้ำจะขัง
ทางคณะผู้สื่อข่าว พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วย ยังได้ทำการสำรวจบริเวณโดยรอบ ก็มีก้อนหินขนาดใหญ่ ที่มีขนาดลดหลั่นกันไป เรียงรายเหมือนกับมีคนนำมาจัดวาง อยู่เป็นจำนวนมาก และยังมี ก้อนหินที่ลักษณะเป็นก้อนยาวประมาณ 20 เมตร คล้ายกับตัวมังกร มีส่วนหัว มีปาก มีหงอน ชาวบ้านจึงตั้งชื่อกันว่า หินมังกร ห่างออกไป จะมีเนินหินหัก หรือ หินอกหัก เนื่องจากมีลักษณะพิเศษคือ เป็นหินก้อนใหญ่ที่หักออกจากกัน ซึ่งผู้ใหญ่คำเงิน เล่าว่า เป็นเรื่องแปลก ที่หินขนาดใหญ่ จะหักลงได้ง่าย ๆ เหมือนกับมีใครเป็นคนจับหักออกจากกัน
นอกจากนี้ ยังมี หินชะง่อนสมาธิ เป็นหินที่มีลักษณะยื่นออกมาเหมือนหลังคา ที่ผู้ใหญ่คำเงิน เล่าว่า เมื่อ 20 ปีก่อน ชาวบ้านพบว่ามีพระธุดงค์มาปักกลด เจริญสมาธิภาวนา อยู่ที่นี่ จึงเรียกกันว่า หินชะง่อนสมาธิ
ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้น เป็นเพียงพื้นที่ 1 ใน 10 ของป่าหินเทินเท่านั้น นายคำเงิน แก้วอินทิม ผู้ใหญ่บ้าน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ป่าหินเทินแห่งนี้ มีพื้นที่มากกว่า 200 ไร่ เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ และมีหินลักษณะแปลก ๆ ที่มีความสวยงาม อยู่อีกจำนวนมาก ตนเองและชาวบ้านอยากให้มีหน่วยงาน มาทำการสำรวจ อย่างจริงจัง และอยากให้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งตนเองและชาวบ้านมั่นใจว่า สถานที่แห่งนี้ ไม่มีที่ใดเหมือน และจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen พิษณุโลก อีกแห่งหนึ่งอย่างแน่นอน