นายบุญชู ศิดสันเทียะ และนางดาว ศิดสันเทียะ คู่สามีภรรยา ชาวบ้านดงพลวงเจริญผล ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พลิกวิกฤติแล้งเลี้ยงมดแดง เก็บไข่มดแดงขาย ในไร่นาสวนผสมเนื้อที่ 7 ไร่ มีรายได้เสริมจากการทำนา มีกินมีใช้ตลอดทั้งปี กลายเป็นเกษตรกรตัวอย่าง
วันที่ 31 มี.ค. 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ หมู่ 4 บ้านดงพลวงเจริญผล ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก มีชาวบ้านยึดอาชีพการเลี้ยงไข่มดแดง พลิกวิกฤติในช่วงฤดูแล้ง สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เกษตรกรดังกล่าว คือนายบุญชู ศิดสันเทียะ อายุ 46 ปี และนางดาว ศิดสันเทียะ อายุ 44 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 416 หมู่ 4 ต.หนองพระ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ที่ใช้เนื้อที่ 7 ปลูกพืชพักผลไม้ เลี้ยงหมู ขุดบ่อเลี้ยงปลา และที่สำคัญ ก็คือการเลี้ยงมดแดง เพื่อนำไข่ไปขาย
นายบุญชู ศิดสันเทียะ เจ้าของสวน กล่าวว่า ตนประสบความสำเร็จเรื่องการเลี้ยงมดแดงเพื่อขายไข่จากโครงการปิดทองหลังพระ และเน้นหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวง มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 จากนั้นจึงนำความรู้ที่ได้ลองผิดลองถูกจนประสบความสำเร็จ มาสอนให้ความรู้และแนะนำให้กับชาวบ้านที่สนใจอยากจะยึดอาชีพนี้เป็นอาชีพเสริม โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ว่างเว้นจากการทำนา สามารถนำไข่มดแดงไปขายสร้างรายได้
สำหรับวิธีการเลี้ยงมดแดงเพื่อขายไข่มีดังนี้ คือ นำเชือกมาผูกขึงกับต้นมะม่วงต้นต่างๆ ไว้ และมัดเชือกโยงให้ไปถึงกันทุกต้น จากนั้นเตรียมอาหารของมดแดงซึ่งประกอบไปด้วย ข้าวสุก เนื้อปลา นมผงเด็ก ซึ่งเป็นสูตรที่คิดค้นขึ้นเอง มาขยำส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วจึงนำไปหย่อนใส่ปากขวดพลาสติกที่ถูกตัดดัดแปลงเอาไว้เป็นภาชนะใส่อาหารติดกับต้นมะม่วง เมื่อฝูงมดแดงได้กลิ่นอาหารดังกล่าวก็จะพากันเดินไต่เชือกมากินอาหารกันอย่างอุดมสมบูรณ์ เมื่อถึงช่วงผสมพันธุ์ของมดแดงตัวผู้และมดแดงตัวเมียจะตกไข่ออกมามีขนาดฟองที่ใหญ่มาก
สำหรับไข่มดแดง ที่นำไปขายนั้นถ้าไข่ขนาดเล็ก ก็ราคากิโลกรัมละ 250 บาท ถ้าฟองใหญ่ ก็ราคากิโลกรัมละ 300 บาท ส่วนตัวมดแดงสามารถขายได้ถึงกิโลกรัมละ 250 บาท โดยไข่มดแดงจะมีพ่อค้าทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่เดินทางมารับซื้อนำไปประกอบอาหารกันตลอดทั้งปี และตอนนี้มีพ่อค้าประเทศบรูไน ติดต่อมาขอซื้อไข่มดแดงเพื่อนำไปเลี้ยงนกแล้ว แต่ตนเอง ยังผลิตไข่มดแดงไม่ทัน ซึ่งปีนี้หนึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่ตนเอง 50,000-70,000 บาททีเดียว
/////////////