อากาศร้อนจัดกระทบทุเรียนหลงรักไทยลูกออกน้อยลง

IMG_0589สภาพอากาศที่ร้อนจัดส่งผลให้ผลผลิตทุเรียนหลงรักไทยน้อยลงกว่าปีที่ผ่านกว่าครึ่งหนึ่ง อีกทั้งคาดว่าจะผลจะสุกในเดือนพฤษภาคม ด้านเจ้าของสวนเผยแม้ผลผลิตจะน้อยแต่จะขายราคาเท่าเดิมIMG_0587

30 มี.ค.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกุมภาพพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกพืชสวนได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมทั้งเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนหลงรักไทย ในพื้นที่หมู่ 7 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นสวนทุเรียนแห่งแรกและแห่งเดียวของ จังหวัดพิษณุโลก บนเนื้อที่ 45 ไร่ ที่ปลูกทุเรียนพันธุ์หลงรักไทย จำนวนกว่า 500 ต้นIMG_0595

นายวรรณชัย  กาญจนเพ็ญ อายุ 43 ปี เจ้าของสวนทุเรียน เปิดเผยว่า ได้นำพันธุ์ทุเรียนหลงลับแลมาปลูกในพื้นที่ อ.เนินมะปราง นานกว่า 5 ปี จนสามารถสร้างผลผลิตออกสู่ตลาดได้กว่าปีละ 30 ตัน สามารถสร้างรายได้จำหน่าย กิโลกรัมละ 180-250 บาท ส่วนเอกลักษณ์และจุดเด่นของทุเรียนพันธุ์หลงรักไทยนั้น คือ เนื้อทุเรียนจะมีลักษณะเนื้อละเอียดแน่น ไม่เละจนเกินไป สีเหลืองทอง รสชาติหวานและหอม อร่อยกว่าทุเรียนพันธุ์หลินลับแลหลงลับแล ทั้งที่ต้นพันธุ์มาจากพันธุ์ทุเรียนพันธุ์หลินลับแลหลงลับแล อาจเป็นเพราะบ้านรักไทยสภาพอากาศเย็น แร่ธาตุในดินดีทำให้เนื้อทุเรียนที่นี่อร่อยกว่าที่อื่น เป็นที่ต้องการของท้องตลาด  จึงได้เปลี่ยนชื่อจากพันธุ์หลงลับแลเป็น “พันธุ์หลงรักไทย” เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ปัจจุบันทุเรียนพันธุ์หลงรักไทยเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมากIMG_0586

นายวรรณชัย   กาญจนเพ็ญ กล่าวอีกว่า  ในปีนี้ทางสวนทุเรียนของตนเองต้องประสบปัญหากับภัยแล้งอย่างหนักเนื่องจากอากาศที่ร้อนมาก ทำให้ต้นทุเรียนออกดอกมาน้อย ทำให้ผลผลิตในปีนี้คาดว่าจะออกมาน้อยกว่าปีที่แล้วกว่าครึ่งหนึ่ง  คือ ประมาณ 10 กว่าตัน กรอปกับเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมายังโดนพายุฤดูร้อนพัดถล่ม ทำให้ลูกอ่อนของทุเรียนร่วงตกลงมาเป็นจำนวนมาก ปีนี้คาดว่าจะออกมาจำหน่ายได้ประมาณปลายเดือนพฤษภาคมนี้

สำหรับราคาขายจะเน้นขายในราคาเดิม คือ 180-250 บาท ซึ่งจะไม่มีทางขึ้นราคาอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานของอร่อย มีคุณภาพ และราคาถูก.

………………………………………………………………………………..

แสดงความคิดเห็น