วันนี้( 24 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกมะม่วงส่งออก จำนวนหลายพันไร่ แต่หลังจากสภาพมีพายุกระหน่ำในหลายพื้นที่ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกษตรกรที่ปลูกมะม่วง ต่างเร่งเก็บมะม่วงในสวน มาส่งขายที่สถานีคัดแยก เพื่อส่งออกขายกันจำนวน เนื่องจากต่างหวั่นเกรงว่าพายุ จะทำให้มะม่วงเสียหายอีก โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ที่มีเกษตรกรที่ปลูกมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง พันธุ์ฟ้าลั่น มะม่วงพันธุ์เขียวเสวย เป็นต้น
นายนพลักษณ์ วุฒิสูง อายุ 55 ปี เกษตรกรปลูกมะม่วง ในพื้นที่ 14 ต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง กล่าวว่า ตนเองทำนาสลับกับการปลูกมะม่วงขาย โดยเฉพาะมะม่วงนั้นตนเองปลูกจำนวน 5 ไร่ ส่วนใหญ่ปลูกมะม่วงพันธุ์ฟ้าลั่น ในแต่ละปีจะเก็บมะม่วงมาขายที่สถานีคัดแยกมะม่วงภายในหมู่บ้าน เพื่อส่งขายที่ประเทศเพื่อนบ้านและที่กรุงเทพมหานคร โดยในราคามะม่วงฟ้าลั่นราคาตก เหลือเพียง กิโลกรัมละ 12 บาทเท่านั้น ทำให้ตนเอง ต้องเริ่มหันไปปลูกมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง เบอร์ 4 เนื่องจากมีราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 20 บาท นอกจากนี้ในช่วงนี้เกิดพายุฝนถล่มในหลายพื้นที่ทำให้ตนต้องรีบเก็บมะม่วงที่สวนมาขายเป็นการด่วน ซึ่งเกรงว่าหากมะม่วงฟ้าลั่นถูกพายุพัดตกจากต้นแล้วแตก ทำให้มะม่วงเสียหายราคาตก เหลือไม่ถึง 5 บาทได้
ขณะที่ชาวบ้านที่มาร่วมกันคัดแยกมะม่วง ส่งออกที่สถานีคัดแยกบ้านท่าหมื่นราม หลายราย ต่าง ได้มีรายได้จากการรับจ้างคัดแยกมะม่วงส่งออกในวันละ 200 บาทอีกด้วย โดยแต่ละอาทิตย์จะทำการคัดและส่งออกขายอาทิตย์หนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 ตัน โดยส่วนใหญ่เป็นมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง เบอร์ 4 นางบุญสงค์ วังคีรี อายุ 59 ปี ชาวท่าหมื่นราม ที่รับจ้างคัดแยกมะม่วง กล่าวว่า ในปีนี้ราคาตกอย่างมาก โดยพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง จากเดิมส่งออกกิโลกรัมละ 100 บาท แต่ปีนี้ราคาตกเหลือเพียง 50 บาทเท่านั้น ส่วนมะม่วงฟ้าลั่น ราคาลดลงเหลือเพียงกิโลกรัมละ 25 บาท อีกทั้งหากเจอพายุเช่นกันทำให้มะม่วงราคาตกลงไปอีก ส่งผลให้มีชาวบ้านหลายราย ที่เริ่มหันมาตั้งร้านค้าขายมะม่วงหน้าบ้านตนเอง ซึ่งจะสามารถขายมะม่วงได้ราคา โดยหากเป็นน้ำดอกไม้สีทอง ก็จะขายกิโลกรัมละ 50 บาททีเดียว
///////////////