หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงพิษณุโลก นำเครื่องบินซูปเปอร์คิงส์แอร์ ซึ่งติดอุปกรณ์นำสมัย ขึ้นประเมินสภาพอากาศ และ เพิ่มประสิทธิภาพการทำฝนหลวงแบบเมฆเย็น เป็นการทำฝนหลวงในชั้นที่สูงเกินกว่าที่เครื่องบินกาซ่าจะบินทำฝนหลวงได้ ทำให้เกิดฝนตกในระดับที่สูงกว่าชั้นปกติทั่วไป ทั้งยังช่วยบรรยากาศด้านล่างมีความชื้นเพิ่มขึ้น
หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงพิษณุโลก ที่ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่กองบิน 46 พิษณุโลก ได้นำเครื่องบินซูเปอร์คิงแอร์ 350 สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขึ้นบินเหนือเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก แต่สภาพก้อนเมฆไม่มีความเหมาะสม จึงย้ายไปปฏิบัติ การเมฆเย็นที่อำเภอนครไทย รอยต่อจังหวัดพิษณุโลก กับ จังหวัดเพชรบูรณ์ และ รอยต่อระหว่างจังหวัดพิจิตร สำหรับ เครื่องบินประสิทธิภาพสูงลำนี้ จะปฏิบัติภารกิจในการวิจัยสภาพอากาศ เพราะมีการติดตั้งอุปกรณ์คล้ายกับหัวกระสุนจำนวน 5 หัว สำหรับวัดขนาดสารแขวนลอย วัดขนาดอนุภาคในก้อนเมฆ วัดอุณหภูมิ และ ติดตั้งกล้องถ่ายภาพที่บริเวณปีกเครื่องบินทั้ง 2 ข้าง และ ชุดแพนหาง ส่วนบริเวณใต้ท้องเครื่อง จะเป็นตัวยิงสารเคมีที่ใช้ก่อกวนเมฆแบบซุปเปอร์แซนด์วิช หรือปฏิบัติการเมฆเย็น อุปกรณ์นำทั้งหมดสมัยนี้ จะช่วยแปรค่าสภาพอากาศด้านบนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ในระหว่างที่บินสำรวจก้อนเมฆ ที่มีขนาดใหญ่ลักษณะเหมือนภูเขา เพื่อขยายฐานเมฆให้กว้างขึ้นในระดับความสูง 2 หมื่นฟุต สำหรับปฏิบัตินี้ ได้ยิงสารเคมีจากใต้ท้องเครื่องจำนวน 11 นัด ท่ามกลางอุณหภูมิลบ 6 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นการทำฝนหลวงในชั้นที่สูงเกินกว่าที่เครื่องบินกาซ่าจะบินทำฝนหลวงได้ ทำให้เกิดฝนตกในระดับที่สูงกว่าชั้นปกติทั่วไป ทั้งยังช่วยบรรยากาศด้านล่างมีความชื้นเพิ่มขึ้น