ชาวนาในตำบลปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ต้องทนเกี่ยวข้าวที่เม็ดมีคุณภาพไม่ดี บางแห่งมีครึ่งเม็ด เนื่องจากแล้งจัด ข้าวไม่ออกรวง ขณะที่ชาวนาบางรายต้องทนปล่อยนาทิ้งเสียหาย บางรายต้องไถ่นาข้าวทิ้ง รอจนฤดูฝนค่อยทำนาใหม่
วันที่ 14 มี.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาปลักแรด อ.บางระกำ ได้เช่ารถเกี่ยวข้าวเร่งเกี่ยวข้าวในนาถึงแม้ว่ายังไม่ได้ครบกำหนดเกี่ยวก็ตาม เพื่อนำไปจำหน่าย ทั้งนี้หวั่นว่าหากปล่อยทิ้งไว้น้ำจะไม่พอทำนาและข้าวจะแห้งตาย อีกทั้งราคาข้าวช่วงนี้ขายได้ที่ 5,800-6,300 บาท/ตัน หากไม่เร่งเก็บเกี่ยวก็ต้องลงทุนในการดึงน้ำบาดาลมาหล่อเลี้ยงอีก ก็จะไม่คุ้มค่าเพราะค่าเจาะบ่อบาดาลนับวันก็สูงขึ้นอีกทั้งยังค่าน้ำมัน จึงตัดสินใจเร่งเกี่ยวข้าวขายดีกว่า
นายชัยวัฒน์ คล้ายทอง อายุ40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 1 ต.ปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ตนเองทำนา 30 ไร่ ได้รับประโยชน์จากน้ำในบึงขี้แร้งและบึงตะเคร็ง ในการสูบน้ำขึ้นมาทำนา ทำให้ปีนี้สามารถทำนาได้ 2 ครั้ง ไม่สามารถทำรอบที่ 3 ได้ทันเพราะน้ำในบึงใกล้หมด จึงว่างเว้นไว้หลังจากเก็บเกี่ยว อีกทั้งราคาข้าวเหลือเพียงตันละ 5,800 บาทเท่านั้น แต่หากข้าวเมล็ดสวยจะสามารถขายได้สูงถึง 6,300 บาท อีกทั้งการขุดบ่อบาดาลก็ราคาแพงปัจจุบันการขุดบ่ออยู่ที่ประมาณ 120,000 บาท ยังไม่รวมค่าน้ำมันในการใช้ดึงน้ำ หากทำนาต่อคงมีแต่ขาดทุน จึงตัดสินใจทิ้งนารอจนฤดูฝนค่อยทำนาใหม่
ด้านนายพัชนะ กุลคำ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148/1 หมู่ 1 ต.ปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ตนเองมีที่นา 28 ไร่ใกล้บึงขี้แร้งเช่นกัน จากปกติมีปัญหาน้ำไม่เพียงพอทำนา สามารถทำนาได้ปีละ 1 ครั้ง ซึ่งช่วงนี้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว แต่ก็ประสบปัญหาโรคเชื้อรา และก่อนหน้านี้ก็เจอปัญหาเมล็ดข้าวไม่เต็มรวง หรือ ออกข้าวมาแค่ครึ่งเม็ด เท่านั้น ทำให้ได้ผลผลิตข้าวลดลง ซ้ำร้ายโดนกดราคาเหลือตันละไม่ 5,000 บาท ซึ่งหลังเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว คงต้องหยุดพักการทำนาไว้ก่อน นอกจากนี้ยังมีชาวนาบางส่วนตัดสินใจปล่อยนาให้เช้าทำไร่อ้อยจนกว่าจะถึงฤดูฝนจึงค่อยกลับมาทำนาใหม่
//////