พบกะโหลกมนุษย์ ในแม่น้ำวังทองที่แห้งขอด บริเวณหมู่ 4 บ้านบุใหญ่ ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ชาวบ้านไปยกยอและงมหอยไปพบ แจ้งตร.ตรวจสอบ อาจจะเป็นของหญิงสูงอายุวัย 70 ปี ที่หายจากบ้านไปเมื่อ 2 ปีก่อน ตำรวจเร่งหาหลักฐานเพิ่มเติม และนำกะโหลกศีรษะมนุษย์ที่พบในครั้งนี้ส่งตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเออย่างละเอียดอีกครั้ง ที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 1 มี.ค. 2558 พ.ต.ท.ธนู ขำโอด พนักงานสอบสวน สภ.บางกระทุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก รับแจ้งว่ามีชาวบ้านพบกะโหลกศีรษะมนุษย์ ภายในแม่น้ำวังทอง หมู่ 4 บ้านบุใหญ่ ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นแม่น้ำที่เริ่มแห้งขอดพบกะโหลกศีรษะมนุษย์จมอยู่ในดินโคลนริมตลิ่ง แต่ไม่พบชิ้นส่วนอื่นๆ ของร่างกายแต่อย่างใด สภาพกะโหลกเริ่มผุกร่อน คาดว่าเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้จมน้ำมาเป็นระยะเวลานานแล้ว
นางลำพึง แก้วเพ็ญ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/1 หมู่ 7 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นผู้มาพบเป็นคนแรก เล่าว่า ตนเองได้มายกยอหาปลาและงมหอยที่แม่น้ำวังทองแห่งนี้ ขณะที่กำลังงมหอยอยู่นั้น มือก็คลำไปพบกับสิ่งของบางอย่าง ครั้งแรกเข้าใจว่าเป็นกะลามะพร้าว แต่พอหยิบขึ้นมาดูกลับพบว่าเป็นกะโหลกศีรษะมนุษย์ทำให้ตกใจมาก จึงได้วิ่งไปบอกกับ นายวิษณุ จันทร์แจ้ง ผู้ใหญ่บ้าน ให้ทราบเรื่องดังกล่าว และรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้ามาตรวจสอบ
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นกะโหลกศีรษะของนางแม้น พรหมสิทธิ์ อายุ 70 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ที่ทางญาติได้แจ้งว่าหายตัวออกจากบ้านพักไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นญาติได้ตั้งรางวัลสำหรับผู้ที่ตามหาเจอถึง 50,000 บาท จนกระทั่งวันนี้มีชาวบ้านมาพบกะโหลกศีรษะมนุษย์ที่แม่น้ำแห่งนี้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้หาหลักฐานเพิ่มเติม และนำกะโหลกศีรษะมนุษย์ที่พบในครั้งนี้ส่งตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเออย่างละเอียดอีกครั้ง ที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิต หากพบว่าเป็นการฆาตกรรมก็จะสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
………………………………………………………………………………………………