เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ก.พ.58 ร.ต.ท.สุรพงศ์ เหมือนศรีชัย ร้อยเวร สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งจากพระครูประภากรชัยกิจ รองเจ้าคณะอำเภอ รูปที่ 2 ว่า มีพระสงฆ์ออกเดินบิณฑบาตเรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน ภายในซอยวัดเขื่อนขันธ์ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกับได้ควบคุมตัวมาตรวจสอบ พบว่าเป็นพระเขมรขอให้ได้ควบคุมตัวไว้ภายในวัดเขื่อนขันธ์ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดีต่อมาคณะพระวินยาธิกา หรือตำรวจพระ ได้นำตัวพระเขมรทั้ง 2 รูป มาสอบถามภายในกุฏิ หลังพบกำลังเดินบิณฑบาตอยู่ริมถนน ทั้งที่ก่อนหน้าที่ในที่ประชุมสงฆ์ระดับจังหวัด ได้ออกข้อห้ามพระสงฆ์บิณฑบาตเกินเวลา 08.00 น. แต่พบพระทั้ง 2 รูปยังเดินบิณฑบาตในย่านชุมชน จึงได้ให้ไปเชิญตัวมาสอบถามดังกล่าว และควบคุมตัวไว้หลังพบว่าเป็นพระเขมรที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายเบื้องต้นทราบว่า พระทั้ง 2 รูป คือ พระพี อายุ 43 ปี พรรษาที่ 7 และพระวัน อายุ 34 ปี พรรษาที่ 5 เป็นพระจากประเทศกัมพูชา ตรวจสอบมีใบสูติบัตรแสดงตนเป็นพระจริง แต่เขียนด้วยภาษาเขมร แต่ไม่พบเอกสารยืนยันการเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า จำวัดอยู่ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ได้หลบหนีเข้าเมืองมาทางด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และได้เดินทางพักแรมตามจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย 15 วันแล้ว สุดท้ายเดินทางมาที่ จ.พิษณุโลก และบิณฑบาตเรี่ยไรเงินและสิ่งของจากชาวบ้าน ทั้งที่เกินเวลาที่กำหนดเอาไว้ จึงถูกควบคุมตัวดังกล่าว พระครูประภากรชัยกิจ รองเจ้าคณะอำเภอ รูปที่ 2 กล่าวว่า เนื่องจากช่วงเวลาที่พระทั้งคู่ออกเดินบิณฑบาตกับชาวบ้านนั้น อยู่ในช่วงหลังเวลา 08.00 น. ไปแล้ว ซึ่งผิดกฎของสงฆ์และไม่เหมาะสม จึงได้ให้โยมไปเชิญตัวมาสอบถาม ทราบว่าเป็นพระเขมร ประกอบกับไม่เอกสารการอนุญาตเข้าประเทศไทย จึงต้องให้ลาสิกขาหรือสึกจากความเป็นพระ แต่ปรากฏว่าพระเขมรทั้งสองรูปดื้อดึงไม่ยอมสึก แต่สุดท้ายก็ต้องยอม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปดำเนินคดี ในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำและปรับ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นในสลกบาตร ทั้ง 2 รูป พบพระพี มีเงินซุกซ่อนอยู่ 18,400 บาท และพระวัน มีเงินซุกซ่อนอยู่ จำนวน 5,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมารับตัว ก่อนผลักดันกลับประเทศกัมพูชาต่อไป พระครูประภากรชัยกิจ รองเจ้าคณะอำเภอ รูปที่ 2 กล่าวว่า ปัจจุบันมีพระสงฆ์จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเรี่ยไรในรูปแบบต่างๆจำนวนมากเป็นกลุ่มก้อน ลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน โดยอาศัยความเป็นพระหลีกเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง จากนั้นจะแยกย้ายกันหากิน จึงอยากจะให้ญาติโยมพุทธศาสนิกชนพิจารณาก่อนที่จะทำบุญ หากเจอพระสงฆ์ที่ยังบิณฑบาตหลัง 08.00 น. ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย