ปัจจุบันผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาโรคในช่องปาก และปัญหาเกี่ยวกับการสูญเสียฟัน จนเกิดปัญหากระทบกับการกินอาหาร ส่งผลถึงสุขภาพที่ตามมาอีก โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่มีโรคประจำตัว ทั้งโรคความดันโลหิตสูงและ โรคเบาหวาน ซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าใคร ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ตระหนักถึงปัญหาโรคในช่องปากและเกี่ยวกับการสูญเสียฟัน จึงได้จัดทำโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คืนรอยยิ้ม และคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยด้วยรากฟันเทียมโครงการความสุขพระราชทานจากฟันเทียมสู่รากฟันเทียม ตามกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวความว่า “เวลาไม่มีฟันกินอะไรไม่อร่อย ทำให้ไม่มีความสุข จิตใจก็ไม่สบาย ร่างกายก็ไม่แข็งแรง” ทรงมีความห่วงใยปัญหาสุขภาพช่องปากของประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ที่สูญเสียฟันทั้งปาก ส่งผลกระทบต่อสุขภาพตามมาทั้งนี้ เพื่อสนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ พ.ศ.2548 และ 2550 และในปี 2558 นี้ กกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดให้ทั้ง 2 โครงการเฉลิมพระเกียรติ เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นของขวัญอันทรงค่าที่ทรงพระราชทานแก่ชาวไทย โดยในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 2 ประกอบด้วย จังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และตาก จำนวน 90 คน
สำหรับการจัดการบริการโรคในช่องปาก จำเป็นต้องเร่งดำเนินการ เนื่องจากอัตราการเกิดฟันผุของประชาชนยังคงสูงอยู่ ผลสำรวจสุขภาพช่องปาก โดยกรมอนามัย ล่าสุดในปี 2555 ในกลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มเด็กอายุ 5 ปี พบฟันน้ำนมผุร้อยละ 79 กลุ่มอายุ 12 ปี ซึ่งเป็นวัยที่มีฟันแท้ขึ้นครบ 28 ซี่ พบฟันผุร้อยละ 52 กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เผชิญ 2 เรื่อง คือ ฟันผุร้อยละ 97 และเป็นโรคปริทันต์เกือบร้อยละ 32 ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการแปรฟันไม่ถูกวิธี มีหินปูนสะสม กระดูกรอบฟันถูกลาย จนทำให้ฟันโยกและเป็นสาเหตุของการสูญเสียฟันของผู้สูงอายุไทย จึงต้องเร่งแก้ไขป้องกัน โดยให้ทุกเขตสุขภาพเร่งรัดการเข้าถึงบริการทางทันตกรรมของ 3 กลุ่มนี้ ให้มากขึ้น โดยเพิ่มการจัดบริการทันตกรรมทั้งการส่งเสริม ป้องกันและรักษา ลดเด็กฟันผุให้เหลือต่ำกว่าร้อยละ 50 เน้นการป้องกันเบื้องต้น เช่นการให้ความรู้การแปรงฟันที่ถูกวิธี เพิ่มการใช้ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ ขูดหินปูนและอูดฟัน โดยใช้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือศูนย์สุขภาพชุมชนเขตเมือง ซึ่งเป็นบริการการหลักดำเนินการปฐมภูมิเป็นฐานหลักดำเนินการและจัดทันตแพทย์หมุนเวียนไปให้บริการเพิ่มความครอบคลุม ประชาชนไม่ต้องเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลใหญ่นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดโครงการใส่ฟันเทียมพระราชทานและรากฟันเทียมเป็นของขวัญปีใหม่ แก่ผู้สูงอายุทั่วประเทศที่ไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร โดยตั้งเป้าหมายการใส่ฟันเทียมแก่ผู้สูญเสียฟันตั้งแต่ 50-100 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 40,000 ชุด และใส่รากฟันเทียม 8,400 ชุด เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีผู้สูงอายุได้รับการใส่ฟันเทียมไปแล้วประมาณ 12,000 ราย หรือร้อยละ 30ของเป้าหมาย และใส่รากฟันเทียม จำนวน1,306 คน ในส่วนของเขตสุขภาพที่ 2ใส่ฟันเทียมไปแล้ว 1,043 ราย ใส่รากฟันเทียม 76 รายปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอีกว่า ในกลุ่มผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง กำหนดให้ได้รับริการดูแลสุขภาพช่องภาพไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 เพื่อลดการติดเชื้อจากชก่องปาก และโรคปอดบวม จากการสำลักอาหาร ซึ่งพบว่ามีโอกาสถึงร้อยละ 30 รวมทั้งสนับสนุนให้ชมรมผู้สูงอายุดูแลอนามัยช่องปากตนเองให้ได้10,000 ชมรมทั่วประเทศ ขณะนี้ทำไปแล้ว 4,000 ชมรม การให้ความรู้ การดูแลสุขภาพฟัน ป้องกันโรคปริทันต์