วันที่ 19 ก.พ. 58 ที่ห้องประชุมสุพรรณิการ์ อาคารมหิดล โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการความสุขพระราชทานจากฟันเทียมสู่รากฟันเทียม ตามกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวความว่า “เวลาไม่มีฟันกินอะไรไม่อร่อย ทำให้ไม่มีความสุข จิตใจก็ไม่สบาย ร่างกายก็ไม่แข็งแรง” ทรงมีความห่วงใยปัญหาสุขภาพช่องปากของประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ที่สูญเสียฟันทั้งปาก ส่งผลกระทบต่อสุขภาพตามมา
กระทรวงสาธารณสุข จึงได้จัดทำโครงการฟันเทียมพระราชทาน และโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อสนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ พ.ศ.2548 และ 2550 และในปี 2558 นี้ กกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดให้ทั้ง 2 โครงการเฉลิมพระเกียรติ เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นของขวัญอันทรงค่าที่ทรงพระราชทานแก่ชาวไทย โดยในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 2 ประกอบด้วย จังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ และตาก จำนวน 90 คน
นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดโครงการใส่ฟันเทียมพระราชทานและรากฟันเทียมเป็นของขวัญปีใหม่ แก่ผู้สูงอายุทั่วประเทศที่ไม่มีฟันเคี้ยวอาหาร โดยตั้งเป้าหมายการใส่ฟันเทียมแก่ผู้สูญเสียฟันตั้งแต่ 50-100 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 40,000 ชุด และใส่รากฟันเทียม 8,400 ชุด เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีผู้สูงอายุได้รับการใส่ฟันเทียมไปแล้วประมาณ 12,000 ราย หรือร้อยละ 30 ของเป้าหมาย และใส่รากฟันเทียม จำนวน 1,306 คน ในส่วนของเขตสุขภาพที่ 2 ใส่ฟันเทียมไปแล้ว 1,043 ราย ใส่รากฟันเทียม 76 ราย
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอีกว่า ในกลุ่มผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง กำหนดให้ได้รับริการดูแลสุขภาพช่องภาพไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 เพื่อลดการติดเชื้อจากชก่องปาก และโรคปอดบวม จากการสำลักอาหาร ซึ่งพบว่ามีโอกาสถึงร้อยละ 30 รวมทั้งสนับสนุนให้ชมรมผู้สูงอายุดูแลอนามัยช่องปากตนเองให้ได้ 10,000 ชมรมทั่วประเทศ ขณะนี้ทำไปแล้ว 4,000 ชมรม การให้ความรู้ การดูแลสุขภาพฟัน ป้องกันโรคปริทันต์