ตร.พิษณุโลกตามรวบคู่รัก ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ประชาชนอย่างโชกโชน ขับรถเก๋งตระเวนในเขตอ.เมืองเจอบ้านไหนไม่มีคนอยู่ก็จะเข้าไปขโมยทรัพย์สินทุกอย่างมาขาย อ้างเคยขายน้ำตาลสดแล้วไม่ดีและหนีทหารออกมาไม่มีงานทำ ต้องเลี้ยงลูก 2 คน ขณะที่ฝ่ายหญิงก็ตั้งท้องอีก 2 เดือน ผู้เสียหายบก.ข่าว หนังสือพิมพ์เสียงสองแคว ชื่นชมของคุณตำรวจ นโยบายใกล้ชิดประชาชน Stop Walk and Talk ประชาชนแจ้งเบาะแสตามจับคนร้ายได้
เวลา 09.00 น.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ห้องประชุมสภ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.สารนัย คงเมือง รองผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.ดำรงค์ หมื่นอาจยิ้ม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภ.จว.พิษณุโลกและสภ.เมืองพิษณุโลก ร่วมแถลงข่าวจับกุม ผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ตามเคหะสถานในพื้นที่อ.เมืองพิษณุโลก
ผู้ต้องหา 2 ราย คือนายนิคม อินทร์เทศ อายุ 22 ปี ภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 30/2 ม.5 ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก และน.ส.สุรัตยา ยิ่งรัตน์ อายุ 23 ปี ภูมิลำเนาบ้านเลขที่ บ้านเลขที่ 96/3 หมู่ 3 ต.ศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม สองสามีภรรยา ที่ได้ถูกจับกุมตัวเมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา โดยได้แจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยใช้พาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด ฯ พร้อมของกลางเป็นทรัพย์สินหลากรายการทั้งโทรศัพท์มือถือ สร้อยคอทองคำ เครื่องเล่นวีซีดี กระปุกออมสิน ตั๋วจำนำ ต่าง ๆ กว่า 100 รายการ และ รถยนต์เก๋ง โตโยต้า สีฟ้า ทะเบียน กม 4519 พิษณุโลก รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ที่ใช้ในการก่อเหตุ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งจาก น.ส.กนิษฐา เพ็งละมูล อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ม. 11 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก ได้มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านพัก เลขที่ 16 หมู่ 11 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก โดยสามารถจำทะเบียนรถยนต์ของคนร้ายได้ ต่อมาได้ติดตามจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีในเขต อ.พรหมพิราม ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองได้ให้การรับสารภาพว่า เหตุที่ต้องกระทำดังกล่าวเนื่องจากต้องหาเงินเลี้ยงครอบครับ และส่งหนี้ที่ติดจำนวนมาก
นายนิคม เปิดเผยว่า โดยในการก่อเหตุนั้นจะขับรถยนต์ออกตระเวน ตามบ้านพักประชาชนเขต อ.เมืองพิษณุโลก โดยจะเลือกบ้านที่ปิดไม่มีใครอยู่ ลงมือก่อเหตุส่วนใหญ่ช่วงเวลากลางวัน มาแล้ว 13 หลังคาเรือน ในเขตต.หัวรอ ต.ดอนทอง ต.บึงพระ ต.พลายชุมพล หนึ่งในนั้นมีบ้านของผู้สื่อข่าวท้องถิ่นรายหนึ่งด้วย ส่วนทรัพย์สินที่ได้จะนำไปขาย เพื่อหาเงินเลี้ยงลูก จำนวน 2 คน อายุ 4 ปี และ 7 เดือน ในขณะที่ น.ส.สุรัตยา ยังตั้งท้องลูกคนที่ 3 อยู่ในครรภ์ อายุได้ 2 เดือน
หลังจากการแถลงข่าว ผู้เสียหาย 2 ราย คือ นางอำพรรณ์ วงศ์ลังกา อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192/7 หมู่ 11 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก บก. หนังสือพิมพ์เสียงสองแคว ที่ถูกคนร้ายมาขโมยทรัพย์สินหลายรายการเมื่อ 26 มกราคมที่ผ่านมา และนส.เจนจิรา พรหมปัญญา ผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง ที่ถูกขโมยกระปุกออมสิน เตาไฟฟ้า ในห้องพักที่ต.ปากโทก อ.เมืองพิษณุโลก เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้นำดอกกุหลาบสีแดง มอบเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ในครั้งนี้ โดยชื่นชมการทำงานของจนท.ตร.ที่สามารถตามจับกุมคนร้าย โดยเฉพาะนโยบายที่ให้ตำรวจใกล้ชิดประชาชน Stop Walk and Talk ทำให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสติดตามจับคนร้ายได้
ทั้งนี้ นางอำพรรณ์ วงศ์ลังกา บก.หนังสือพิมพ์เสียงสองแคว ได้ตรวจของกลางที่ถูกขโมย ปรากฏว่า เหลือเพียงกรอบพระเพียงรายการเดียวเท่านั้น ที่ตำรวจตามมาได้ พร้อมกับบอกกับผู้ต้องหาทั้งสองรายว่า เงิน 300 บาท ที่มาก่อเหตุขโมยมานั้น เป็นน้ำพักน้ำแรงของนายเปรม เย็นจิตต์ อายุ 15 ปี บุตรชายของนางอำพรรณ์ ที่ต้องออกไปรับจ้างทำงานกว่าจะได้เงินมา โดยผู้ต้องหาทั้งสองราย ได้ยกมือไหว้ขอโทษนายเปรม เย็นจิตต์ ที่มาทำข่าวพร้อมกับแม่ในวันแถลงข่าวด้วย
////////