ดีเอสไอรับคดีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วนชื่อดัง “โอ้โห” ที่มีสารอันตรายต้องห้าม “ไซบูทรามีน” เป็นคดีพิเศษแล้ว โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ได้มารับมอบสำนวนคดีจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 ม.ค. 2558 ที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาค 6 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถ.พิชัยสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2557 ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เข้าตรวจค้นบริษัท โอ้โห สลิมพลัส จำกัด สถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วนชื่อดัง “โอ้โห” ตั้งอยู่เลขที่ 919/54 หมู่ 7 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ของนายวรกร ยิ้มอยู่ อายุ 32 ปี และ น.ส.ศิรินทรา เส็งสิน อายุ 27 ปี สองสามีภรรยา หลังพบสินค้ามีลักษณะไม่ถูกต้องตามกฎหมายหลายรายการ นอกจากนี้สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกยังตรวจพบว่ามีสาร “ไซบูทรามีน” เป็นสารที่อันตรายต่อสุขภาพ หากรับประทานเป็นเวลานานจะสะสมจนถึงแก่ชีวิตได้ เป็นส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน และได้เรียกตัวผู้บริหารบริษัทมารับทราบข้อกล่าวหา ตามที่ได้นำสนอเป็นข่าวแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 ม.ค. 2558 ที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาค 6 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถ.พิชัยสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายสมพร ทิพยโสตนัยนา ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 6 พร้อมด้วย พ.ต.ต.หญิง ศุภวรรณ โพธิ์นาค พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ สำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ได้รับมอบสำนวนคดีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน “โอ้โห” จาก ร.ต.อ.วิชัย พรมรักษา ตัวแทนพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อรับเป็นคดีพิเศษแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งความดำเนินคดี กับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม คือ น.ส.รุ่งนภา คำมินทร์ กรรมการผู้จัดการ และ น.ส.สุพรรษา โคลงกาพย์ กรรมการผู้จัดการ ของบริษัท อินโนว่า แล็บโบราโทรี่ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 1/1 ถ.ร่มเกล้า แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. ที่ถูกว่าจ้างให้ทำการผลิตสินค้าดังกล่าว ในข้อหา “จำหน่ายอาหารปลอม หรือ จำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์” มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้รับเรื่องทั้งหมดเพื่อไปดำเนินการตามขั้นตอน พร้อมรวบรวมหลักฐานต่างๆ ทั้งในเรื่องของการตรวจสอบทรัพย์สินของบริษัท โอ้โห สลิมพลัส จำกัด ที่จัดจำหน่ายมาเป็นเวลากว่า 1 ปี ว่าได้เสียภาษีถูกต้องตามที่ได้แจ้งกับสำนักงานสรรพากรภาค 7 หรือไม่ โดยหลังจากรับมอบสำนวนคดีในวันนี้ จะทำการสรุปสำนวนคดีส่งอัยการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี
ทั้งนี้หลังจากเกิดเรื่องเป็นคดีความขึ้น ทาง บริษัท โอ้โห สลิมพลัส จำกัด ยังได้มีการผลิตสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วน ออกมาจำหน่ายในโลกออนไลน์อีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งว่า สามารถจัดจำหน่ายได้ตามปกติ แต่ถ้าหากตรวจพบว่ายังมีสารต้องห้ามผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ ก็จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง โดยจะให้ทางสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง.
………………………………………………………………………..