เมื่อวันนี้(22 ม.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากปัญหาลัยแล้งที่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ในจังหวัดพิษณุโลกทำให้เกษตรกรหลายรายต้องประสบปัญหากันอย่างหนักบางรายต้องยกเลิกการทำนาซึ่งเป็นอาชีพหลักของครอบครัว ต้องหันมาทำอาชีพเสริมช่วงนี้เป็นจำนวนมาก
นางส้มลิ้ม กันจร อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 267 หมู่ 10 ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพทำนามาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่แล้ว ปัจจุบันได้ทำนาได้ 4 ไร่ ฤดูกาลที่ผ่านมาก็ได้ทำนาตามปกติ แต่พบปัญหามากคือน้ำไม่พอใช้ในการทำนา อีกทั้งยังต้องพบปัญหาหนูนาระบาดอย่างหนักจากที่เคยทำนา 4 ไร่จะได้ผลผลิตประมาณ 3 ตัน แต่ปีนี้ได้ผลผลิตเพียง 1 ตันเท่านั้น เพราะถูกหนูนากัดกินเมล็ดข้าว สาเหตุที่ทำให้หนูนาระบาดหนักเพราะเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา อ.บางระกำ ไม่มีน้ำท่วมเหมือนทุกปีที่ผ่านมาทำให้หนูนาได้ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว แต่จะลงทุนกำจัดยังไงก็ไม่หมดจึงเกิดปัญหาผลผลิตลดน้อยลงอย่างมาก ส่วนในฤดูทำนาในช่วงนี้ตนเองและครอบครัวตัดสินใจไม่ทำนาเนื่องจากปัญหาภัยแล้งแม่จะลงทุนขุดน้ำบ่อบาดาลแล้วก็ไม่มีน้ำเพียงพอที่จะทำนา จึงต้องหยุดทำนาและหันมาหารายได้โยวิธีอื่น
ทางด้านนายสมจิตร เชียวชาญ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 10 ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ กล่าวว่า ปกติตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ในช่วงฤดูทำนาที่ผ่านมา ในนาข้าวของเพื่อนบ้านถูกหนูนาระบาดอย่างหนัก ตนเองเลยออกหาดักหนูนาเพื่อนำมาย่างขายสร้างราย ปกติจะใช้วิธีนำกับดักหนูหรือกรงดักหนูไปดักหนูในกลางทุ่งนา แต่เนื่องจากอุปกรณ์ทั้งสองอย่างต้องลงทุนสูง ตนจึงได้คิดดัดแปลงอุปกรณ์การดักหนูด้วยตนเอง เพราะได้จำมาจากการดักหนูของเกษตรกรทางภาคอีสาน หรือที่เรียกว่าแร้วดักหนู อุปกรณ์ก็ไม่มีอะไรมากแค่ใช้ไม้ไผ่มาเหลาให้แหลด เพื่อไว้ใช้ปักลงบนพื้นดิน และนำเส้นลวดขนาดเล็กมามัดกับตัวไม้ไผ่และทำเป็นบ่วงและนำไปปักไว้ตามเส้นทางที่หนูเดินผ่าน เมื่อหนุเดินผ่านช่วงคอและลำตัวก็จะเข้าไปในบ่วงรัดแน่นไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้ นอกจากทำกับดักเองแล้วยังทำขายให้กับเพื่อนบ้านตัวละ 2 บาท สร้างรายได้อีกทาง
///////