วันนี้( 22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่หมู่บ้าน วังส้มซ่าหมู่ 1 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ในอดีตทุกครัวเรือนจะนิยมปลูกส้มซ่า อย่างน้อย ๆบ้านละ 1 ต้น เพื่อพกผลส้มซ่าไว้รับประทาน ช่วยให้สดชื่น หายเหนื่อย ผิวส้มซ่าไว้สูดดม แก้วิงเวียน เวลาสระผมก็นำผลมาผ่าครึ่งชโลมผม หรือขัดมือ ขัดเท้า ให้ความสะอาด ลดความแห้งได้ ต่อมาเมื่อวิถีชีวิตเปลี่ยนไป ชาวบ้านหันมาปลูกพืชเศรษฐกิจ ทำให้ต้นส้มซ่าค่อย ๆ หายไป ชาวบ้านเกิดความรู้สึกหวงแหนและเสียดาย จึงรวมตัวกันอนุรักษ์ต้นส้มซ่าเอาไว้ เนื่องจากส้มซ่าถือว่าประโยชน์มากมาย
กระทั่งในปี 2554 ได้มีเพาะพันธุ์ส้มซ่าแจกบ้านละ 1 ต้น และเพื่อให้เกิดการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน จึงคิดค้นนำส้มซ่ามาแปรรูปให้เกิดประโยชน์สูงบสุด จึงก่อเกิดผลิตภัณฑ์จากส้มซ่า รวมถึงพืชสมุนไพรอื่น ๆ ที่ปลูกกันในหมู่บ้าน เช่น ว่านหางจระเข้ ใบบัวบก มะพร้าว งา กล้วย เป็นต้น โดยมีจุดเริ่มต้นจาก ดร.ไฉน น้อยแสง รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนานักศึกษา วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ผู้มีความรู้ทางด้านแพทย์แผนไทยและพืชสมุนไพร และมีภูมิลำเนาอยู่หมู่บ้านวังส้มซ่า ให้คำแนะนำวิธีการผลิตผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพร
จากนั้นได้มีการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาผลิตภัณฑ์ทรัพยากรชีวภาพเพื่อเศรษฐกิจชุมชนบ้านวังส้มซ่าขึ้น โดยระดมทุนจากความสมัครใจของชาวบ้านในชุมชนเพื่อเป็นทุนในการผลิต กระทั่งตอนนี้มีสมาชิกถึง 25 ราย ที่สมัครใจในการแปรรูปผลิตภัณฑ์รูปแบบต่าง ๆจากส้มซ่า ไม่ว่าจะเป็น เจลอาบน้ำ สบู่ก้อน โลชั่น แชมพู ครีมนวดผม ทรีตเมนท์ โฟมสครับ ครีมบำรุงผิว ครีมขัดผิว เซรั่ม
นางเผชิญ หงส์สีชมพู ที่ปรึกษากลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาผลิตภัณฑ์ทรัพยากรชีวภาพเพื่อเศรษฐกิจชุมชนบ้านวังส้มซ่า กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์จากส้มซ่า เริ่มเป็นที่รู้จัก ยอมรับ ไม่ใช่แค่คนวัยทำงานหรือวัยกลางคนเท่านั้น วัยรุ่นก็นิยมชมชอบ จากปากต่อปาก ทำให้มีนักธุรกิจ กลุ่มสปา กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ตลอดจนนักเรียน นักศึกษามาศึกษาดูงานในรูปแบบแหล่งเรียนรู้ ตั้งแต่การปลูกพืชสมุนไพร กระบวนการผลิต และเริ่มได้รับออเดอร์จากลูกค้าที่สั่งให้ทำครีมบำรุงผิว ครีมขัดผิว ส่งขายในรูปแบบเป็นกิโลกรัม บางรายก็ว่าจ้างแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ โลโก้ ไปจนถึงจดทะเบียนการค้า และตอนนี้สินค้าของกลุ่มไปไกลถึงต่างประเทศ ขณะที่รายได้ทุกบาทนั้นทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาผลิตภัณฑ์ทรัพยากรชีวภาพเพื่อเศรษฐกิจชุมชนบ้านวังส้มซ่า นอกจากเป็นต้นในการผลิตสินค้าแล้ว ก็ยังนำไปเป็นทุนการศึกษาให้บุตรหลานของชุมชนบ้านวังส้มซ่าทุกครัวเรือน แบบ 100 %
ต่อมาทางกลุ่มได้มีแนวคิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ โดยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์บนรากฐานของศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เชื่อมโยงกับองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงก่อเกิดผลงานชิ้นเอกของชุมชน นั่นคือ ลิปกลอสส้มซ่า ให้แก่สุภาพสตรี ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปากที่มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากสารสกัดเซลล์เนื้อเยื่อเจริญของส้มซ่า สามารถใช้ได้ทุกช่วงเวลาและโอกาส ตัดสินใจซื้อง่ายเพราะราคาไม่แพง และยังซื้อเป็นของฝากได้ นอกจากนี้ยังได้รับมาตรฐาน อย. อีกด้วย
ด้วยกระบวนการ วิธีคิด ทำให้ลิปกลอสส้มซ่าได้รับรางวัลชนะเลิศระดับภาคเหนือและรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในการประกวดการพัฒนาภูมิปัญญาสู่นวัตกรรม ตามโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ด้วยทรัพย์สินทางปัญญาในการเข้าสู่ตลาด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยลิปกลอสส้มซ่าจึงได้รับความสนใจ ไม่ใช่เพียงในประเทศเท่านั้น ชุมชนยังมุ่งส่งออกตลาดต่างประเทศ พร้อมกับผลิตภัณฑ์ส้มซ่าชนิดอื่น ได้แก่ สบู่เหลว แชมพู ครีมนวดผม และลิบบาล์ม
นางเผชิญ ยังกล่าวอีกว่า รางวัลนี้ถือว่านับเป็นความภาคภูมิใจ การันตีคุณภาพ แต่ที่เหนือไปกว่านั้นคือ ต้นส้มซ่าพลิกฟื้นกลับคืนสู่ชุมชนบ้านวังส้มซ่า ชาวบ้านมีงานทำ มีรายได้ และยังเตรียมต่อยอดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อื่น เช่น น้ำผลไม้ส้มซ่า หมี่กรอบส้มซ่า และคุ้กกี้ส้มซ่าต่อไป โดยผู้ใดสนใจอุดหนุนผลิตภัณฑ์ลิปกลอสจากส้มซ่า หรือ ผลิตภัณฑ์ ชนิดอื่นๆ ก็สามารถติดต่อ ได้ที่ 08 9958 6622