โรงเรียนบ้านหนองกุลา จัดโครงการมินิฟาร์ม ให้นักเรียนได้เรียนรู้ประสบการณ์ด้านปลูกผักสวนครัว ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมทั้งนำไปประกอบอาหารกลางวันให้นักเรียนได้บริโภคอาหารครบ 5 หมู่ ที่หมู่ 4 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก สังกัดสำนักงานพื้นเขตที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนบ้านหนองกุลา ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก สังกัดสำนักงานพื้นเขตที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1 ทางโรงเรียนได้จัดสร้างโครงการมินิฟาร์ม ขึ้น เพื่อให้นักเรียนภายในโรงเรียนได้เรียนรู้วิธีการปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ จนสามารถนำไปบริโภคเป็นอาหารได้ โดยจุดประสงค์หลักคือ นำไปประกอบเป็นอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนได้สามารถบริโภคอาหารครบ 5 หมู่
นายวิรัช พายซ้าย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองกุลา กล่าวว่า ทางโรงเรียนบ้านหนองกุลา เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมีโรงเรียนขนาดเล็กคือโรงเรียนนิคมบางระกำ 8(หนองปลวก) มาเรียนร่วมด้วย ส่งผลให้มีนักเรียนที่มาเรียนในพื้นที่จำนวนกว่า 500 คน ทำให้โครงการอาหารกลางวันนักเรียนอาจมีปริมาณที่จำกัด ทางโรงเรียนจึงได้นำโครงการมินิฟาร์ม มาใช้ ด้วยการให้นักเรียน ได้ช่วยกันปลูกผักสวนครัว และเลี้ยงสัตว์ไว้รับประทาน โดยเฉพาะผักกาด มะเขือ คะน้า ผักบุ้ง การเพาะเห็ดนางฟ้า การเลี้ยงกบ เลี้ยงปลา และเลี้ยงหมู เพื่อนำไปประกอบเป็นอาหารกลางวัน บริโภคครบ 5 หมู่ เสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง บางครั้งพืชผักสวนครัว ที่เหลือจากการทำอาหาร ก็ให้นักเรียนได้สามารถไปนำไปรับประทานที่บ้านได้
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองกุลา กล่าวอีกว่า โครงการมินิฟาร์ม ยังถือว่าเป็นการฝึกอาชีพให้นักเรียน ได้สามารถนำไปต่อยอด ด้วยการนำความรู้ไปพัฒนาอาชีพเสริม ปลูกพืชผักสวนครัวภายในบ้าน ตามแนวทางพระราชดำริเกษตรพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ อีกด้วย
โครงการ มินิฟาร์ม หรือฟาร์มขนาดเล็ก (mini-farm) แบบครบวงจร ส่วนหนึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุน จำนวน 200,000 บาท จาก บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) โครงการนี้ ประกอบไปด้วย การปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ เช่น การปลูกผักไร้สารพิษ การเพาะเห็ดนางฟ้า การเลี้ยงปลาดุกในกระชัง การเลี้ยงกบในวงบ่อซีเมนต์ การทำปุ๋ยชีวภาพ และ การทำน้ำหมักชีวภาพ โดยนักเรียนก็จะการแบ่งหน้าที่การรับผิดชอบภายในมินิฟาร์ม ผลัดกันเข้ามาดูแลในช่วงวันเสาร์ และ วันอาทิตย์ รวมทั้งมีครูและนักการภารโรงมาช่วยดูแลอีกทางหนึ่ง
ทางด้าน ด.ญ.สุพิชญา ภู่สีทอง อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เปิดเผยว่า ตนเองได้รับความรู้จากอาจารย์ในโรงเรียนในวิชาเกษตรกรรม โยได้ความรู้จากการเพาะเห็ดฟาง การเลี้ยง ไก่ไข การเลี้ยงปลา เลี้ยงกบและการปลุกพืชผักสวนครัวและผักไฮโดรโปรนิก หรือการปลุกพืชที่ไม่ใช้ดิน เพราะการทำเกษตรกรรมเหล่านี้ทางโรงเรียนจะเอาผลผลิตเข้าไปใช้ในโครงการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กของนักเรียนในโรงเรียน ส่วนพวกตนเองนั้นนอกจากทานอาหารกลางวันฟรีแล้วยังได้ความรู้เกี่ยวการทำการเกษตรสามารถเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันที่บ้านได้อีกด้วย