รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดโครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้ องกันโรคคอตีบให้กับประชาชนอายุ 20-50 ปี ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ในช่วงเวลา 4 เดือน มีเป้าหมายจำนวน 28 ล้านคนทั่วประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็ จพระเทพรัตนราชสุ ดาฯในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558
วันที่ 15 มกราคม 2558 ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายแพทย์ รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการรณรงค์ “คิ๊กออฟ..คนไทยป้องกันคอตีบได้ ด้วยวัคซีน” โดยมีเป้าหมายเป็นในกลุ่มผู้ ใหญ่อายุระหว่าง 20-50 ปีเฉลิมพระเกียรติสมเด็ จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ซึ่งที่ จ.พิษณุโลก มีประชาชนอยู่ในเป้าหมายฉีดวั คซีนประมาณ 90,000 คน
นายแพทย์ รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้จั ดทำโครงการให้วัคซีนป้องกั นโรคคอตีบในกลุ่มผู้ใหญ่ อายุ 20-50 ปี ฟรี โดยมีเป้าหมายประชาชนได้รับวั คซีน 28 ล้านคนทั่วประเทศเพื่อเร่งรั ดและรักษาความครอบคลุมวัคซีนให้ ประชาชนสูงเพียงพอที่จะป้องกั นโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวั คซีน ก่อนที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซี ยนในปีนี้ ซึ่งการรณรงค์ฉีดวัคซีนดังกล่ าวสืบเนื่องจากเมื่อปี 2555มีการระบาดของโรคคอตี บในภาคอีสานและภาคเหนือตอนล่าง มีแนวโน้มขยายไปยังจังหวัดอื่ นๆพบในผู้ใหญ่และเด็กที่ได้รั บวัคซีนไม่ครบถ้วน โดยในกลุ่มผู้ใหญ่ส่วนใหญ่มี อายุระหว่าง 20-50 ปี ซึ่งมีผลการสำรวจพบว่ าประชาชนกลุ่มนี้มีระดับภูมิต้ านทานโรคต่ำที่สุด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เกิดก่ อนปี 2520 ซึ่งเป็นปีที่ประเทศไทยเริ่มใช้ แผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกั นโรคในเด็กในระดับชาติ จึงยังไม่เคยได้รับวัคซีนชนิดนี ้ มีความเสี่ยงติดเชื้อและป่วยเป็ นโรคคอตีบได้สูง โครงการนี้จะเป็นการป้องกั นควบคุมโรคคอตี บในระยะยาวของประเทศ
สำหรับวัคซีนที่ใช้ฉีดครั้งนี้ เป็นวัคซีนป้องกันโรคคอตี บและโรคบาดทะยัก ในเข็มเดียวกัน เริ่มฉีดครั้งแรกใน 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 และฉีดที่เหลืออีก 57 จังหวัดทุกภาคตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2558นี้ ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดมี ประชาชนมารับการฉีดวัคซีน 4.8 ล้านคนแล้ว จึงขอเขิญชวนประชาชนทั้งผู้ที่ มีสุขภาพแข็งแรงหรือป่วยที่มี โรคประจำตัวทุกโรค สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนฟรี ได้ที่โรงพยาบาลในสังกั ดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ
โรคคอตีบ (Diphtheria) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเฉี ยบพลัน ส่วนใหญ่ประชาชนยังเข้าใจผิดว่ าเกิดขึ้นเฉพาะเด็ก ซึ่งโรคนี้เกิดได้ทั้งผู้ใหญ่ และเด็กที่ไม่มีภูมิต้านทานโรค อาการป่วยคือมีไข้ พิษของเชื้อจะทำลายกล้ามเนื้อหั วใจและเส้นประสาทส่วนปลาย ทำให้ลำคออักเสบและมีแผนเยื่ อในลำคอ ในรายที่รุนแรงจะทำให้ทางเดิ นหายใจตีบตันและอาจเสียชีวิตได้ เชื้อจะอยู่ในโพรงจมูกในลำคอผู ้ป่วย ติดต่อกันง่ายทางไอจาม สถานการณ์ผู้ป่วยในปี 2557 พบผู้ป่วยลดลงมากเพียง 16 รายใน 8 จังหวัด ขณะที่ ปี 2520 พบผู้ป่วยกว่า 2,300 ราย