2 ผู้บริหาร บริษัท โอ้โห สลิมพลัส จำกัด ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ทนายความโทรศัพท์แจ้งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพิษณุโลกว่าป่วย และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นำเอกสารใบรับรองแพทย์ส่งมาแสดงเพื่อยืนยันว่าเข้ารับการรักษาพยาบาลจริง และให้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาครั้งที่ 2 ในวันเสาร์ที่ 6 ธ.ค. 57 นี้
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2557 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เข้าตรวจค้นบริษัท โอ้โห สลิมพลัส จำกัด สถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วนชื่อดัง “โอ้โห” ตั้งอยู่เลขที่ 919/54 หมู่ 7 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ของนายวรกร ยิ้มอยู่ อายุ 32 ปี และ น.ส.ศิรินทรา เส็งสิน อายุ 27 ปี สองสามีภรรยา หลังพบสินค้ามีลักษณะไม่ถูกต้องตามกฎหมายหลายรายการ นอกจากนี้สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกยังตรวจพบว่ามีสาร “ไซบูทรามีน” เป็นสารที่อันตรายต่อสุขภาพ หากรับประทานเป็นเวลานานจะสะสมจนถึงแก่ชีวิตได้ เป็นส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วนอีกด้วย จึงถูกแจ้งความดำเนินคดีทั้งหมด 5 ข้อหา คือ พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ฐานจำหน่ายอาหารปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 100,000 บาท ฐานจำหน่ายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท ฐานจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ฐานโฆษณาคุณประโยชน์และคุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2535 ฐานขายเครื่องสำอางแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สามารถ จูเทศ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้ดำเนินการออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คน คือ น.ส.ศิรินทรา เส็งสิน หรือ ปูนิ่ม และนายวรกร ยิ้มอยู่ เจ้าของบริษัท โอ้โห สลิมพลัส จำกัด ให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คน ไม่ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด โดยให้นายสัมพันธ์ ทองน้อย ทนายความส่วนตัวโทรศัพท์มาแจ้งกับพนักงานสอบสวนว่า ขณะนี้ น.ส.ศิรินทรา เส็งสิน และนายวรกร ยิ้มอยู่ ได้ป่วยและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นำเอกสารใบรับรองแพทย์ส่งมาแสดง เพื่อยืนยันว่าเข้ารับการรักษาพยาบาลจริง และให้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาครั้งที่ 2 ในวันเสาร์ที่ 6 ธ.ค. 57 ถ้าหากยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหาอีก ก็จะออกหมายจับในวันจันทร์ที่ 7 ธ.ค. นี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป