ชาวบ้านหัวหนอง อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ขุดพบต้นตะเคียนโบราณคาดยาวกว่า 50 เมตร กว้างกว่า 3 เมตร หรือประมาณ 5-6 คนโอบ ต้นตะเคียนเก่าแก่คาดว่ามีอายุมากกว่า 300 ปี พบเป็นครั้งที่ 2 ในคลองบึงแฝก ซึ่งเป็นลองน้ำโบราณ ที่ทางโครงการทรัพยากรน้ำกำลังขุดลอกคลอง ในอำเภอบางกระทุ่ม ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2557 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบต้นตะเคียนยักษ์อายุหลายร้อยปี ในคลองน้ำโบราณ หรือชาวบ้านเรียกว่าคลองบึกแฝก บ้านหัวหนอง หมู่ 8 ต.บางกระทุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก จึงเดินทางไปตรวจสอบพบ นายนรัญ สังข์วงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 พร้อมกับชาวบ้านจำนวนหนึ่ง กำลังช่วยกันดูต้นตะเคียน ซึ่งชาวบ้านที่ทราบข่าวส่วนใหญ่ได้นำ เครื่องเซ่นไหว้ ทั้งยาเส้น น้ำหวาน ข้าว ไข่ และมีก้านธูปปักอยู่คาดว่า จำนำมากราบไหว้ขอเลขเด็ดนำแป้งมาถู-ขูดตามลำต้นเพื่อหวังนำเลขที่เห็นไปเสี่ยงโชคซึ่งใกล้ถึงวันหวยออกเต็มทีแล้ว
โดย นายนรัญ สังข์วงศ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 ได้กล่าวว่า ขอนของตะเคียนขุดพบเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 57 ที่ผ่านมา ตนเองได้แจ้งไปยังนายอำเภอบางกระทุ่มแล้ว จะได้ดำเนินการแจ้งไปยังผู้ว่า และผู้เชี่ยวชาญ เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ขุดลอกคลองโครงการเก็บกักน้ำไว้ใช้ทางการเกษตรได้นำรถแบ๊กโฮ จำนวน 3 ตัวมาช่วยกันพยายามนำขึ้นบนฝั่ง แต่ก็ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ เนื่องจากบริเวณยอดของขอนตะเคียนดังกล่าวยังฝังอยู่ใต้ดิน โดยระหว่างนี้ อยู่ระหว่างรอการประสานกับทางอำเภอ ว่าจะหาวิธีใดเพื่อจะนำขอนไม้ตะเคียนขึ้นมาได้เพื่อเก็บอนุรักษ์ โดยจะนำไปตั้งไว้ที่วัดแม่เทียบ เพื่อให้ลูก-หลาย ได้ศึกษาและดูกัน
ทางผู้ใหญ่ยังยืนยันว่าขอบไม้ที่พบในครั้งนี้เป็นขอนของไม้ตะเคียนอย่างแน่นอน เพราะว่าลักษณะเนื้อไม้เป็นเส้นใยที่เหนียวมาก ต่างจากเส้นใยของต้นยาง หรือต้นไม้ชนิดอื่นที่มีความกรอบและเปาะ เวลาหักแล้วจะขาดง่าย ซึ่งได้ประสานไปยังอำเภอ ขอความอนุเคราะห์ ให้นำรกเครนมาช่วยยกน้ำขึ้นขณะนี้ยังรอความหวังอยู่เนื่องจากยังไม่มีการตอบกลับมา
โดยกลุ่มชาวบ้านร่ำลือกันต่างก็เดินทางมาดู และวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ โดยบางคนที่มาเห็นมีอายุมากถึง 300 ปี ก็บอกว่าไม่เคยได้ยินว่า บริเวณนี้มีต้นตะเคียนขึ้นอยู่ เพราะจากคำบอกเล่าของปู่ย่าตายายของตน ในก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนสร้างทางรถไฟ ก็ไม่พบว่ามีต้นตะเคียนขนาดใหญ่เท่านี้ ขึ้นอยู่ในบริเวณนี้ เพราะการสร้างทางรถไฟในสมัยก่อนนั้น จะต้องตัดต้นไม้มาทำหมอนรองรางรถไฟ และจุดที่เจอต้นตะเคียนนี้ ก็ห่างจากทางรถไฟไม่ถึง 100 เมตร จึงสันนิฐานว่า อาจเป็นต้นตะเคียนที่ มีอยู่คู่กับคลองดั่งเดิมมานาน และล้มลงในคลองไปนานมาก กว่า 300 ปี อีกทั้งในการขุดคลองเส้นนี้เมื่อปี 2554 ก็ยังเคยพบกระดูกช้าง และเศษเครื่องปั้นดินเผา คาดว่าบริเวณนี้อาจเป็น ชุมชนเก่าโบราณที่เคยมีผู้คนอาศัยอยู่มาก่อน
ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ มีความคิดเห็น อยากให้หน่วยงานราชการ มาช่วยนำต้นตะเคียนโบราณนี้ขึ้นมาจากคลองในสภาพที่สมบูรณ์ และนำไปไว้ที่ วัดแม่เทียบ เพราะวัดดังกล่าวเป็นวัดที่อยู่ระหว่าง สองหมู่บ้าน จะได้เป็นสิริมงคลต่อชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้าน และเป็น อนุสรณ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็นและศึกษาต้นไม้โบราณต่อไป