ไฟไหม้ร้านช่อชัยพฤกษ์ ร้านจำหน่ายอุปกรณ์สำนักงาน 6 ชั้น ด้านหลังสถานีขนส่งผู้โดยสารพิษณุโลกแห่งที่ 1 ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พนักงานกำลังมาเปิดร้านเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาอย่างแรง ระดมรถดับเพลิงเทศบาล อปท.ค้างเคียง ทหารสกัด ควบคุมเพลิงในวงจำกัดในเวลา 1 ชั่วโมง สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน ยังประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้ ร้านมีสต็อกสินค้ามูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท
เวลา 08.00 น.วันที่ 29 พฤศจิกายน 2557 ร.ต.อ.ธเนตร วงษ์ปริง ร้อยเวรสภ.เมืองพิษณุโลกรับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านช่อชัยพฤกษ์ เลขที่ 834 ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.พิษณุโลก บริเวณด้านหลังสถานีขนส่งผู้โดยสารพิษณุโลกแห่งที่ 1 ที่เกิดเหตุพบว่า รถดับเพลิงของเทศบาลนครพิษณุโลก และจากองค์กรปกครองท้องถิ่นข้างเคียง รวมถึงทหารได้ระดมกันเข้ามาควบคุมเพลิงจำนวนหลายคัน
โดยพบกลุ่มควันและเปลวเพลิงจำนวนมาก ไหม้อยู่บริเวณชั้นล่างของตัวร้านช่อชัยพฤกษ์ จนท.ดับเพลิง ได้พังประตูเหล็กด้านหน้าร้านและฉีดน้ำเข้าไปสกัดต้นเพลิง ที่ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากภายในเป็นวัสดุอุปกรณ์สำนักงาน กระดาษ เครื่องเขียน เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ขณะที่อีกด้านหนึ่งด้านขวาของตัวร้าน ที่มีอาคารพาณิชย์จำนวนมาก ไฟได้ลุกลามออกมา ประชาชนที่อาศัยอยู่ติดกันได้เก็บสิ่งสองและสัตว์เลี้ยงหลบหนีออกมา และจนท.ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงได้ ไม่ลุกลามมาติดอาคารพาณิชย์ข้างเคียง เนื่องจากอาคารของร้านช่อชัยพฤกษ์ เป็นอาคารความสูง 6 ชั้น แต่ตั้งอยู่ต่างหาก ไม่ได้ตั้งติดกับอาคารพาณิชย์ละแวกนั้น และสามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัดในเวลาประมาณ 08.45 น. แต่ภายในยังมีกลุ่มควันอยู่จำนวนมาก ได้ฉีดน้ำควบคุมบริเวณที่ลุกไหม้เพื่อไม่ให้ลุกลาม
จากการสอบสวนนางสาววรรณสิริ ศรีเถกิงกิจ พนักงานของร้านช่อชัยพฤกษ์ ทราบว่า เวลาประมาณ 07.25 น.ได้มาที่ร้าน เพื่อเตรียมตัวเปิดร้าน ที่กำหนดเปิดในเวลา 08.00 น. ได้สังเกตเห็นควันลอยออกมาจากหน้าร้าน และได้ยินเสียงไฟที่กำลังลุกไหม้อุปกรณ์สำนักงานบริเวณด้านมุมขวาของร้าน จึงโทรศัพท์แจ้งผู้จัดการร้านและแจ้งจนท.ดับเพลิงมาสกัด
นางสมถวิล ดำรงชาติ ผู้จัดการร้านช่อชัยพฤกษ์ เปิดเผยว่า บริษัทช่อชัยพฤกษ์ จำกัด ดำเนินกิจการจำหน่ายอุปกรณ์สำนักงาน อุปกรณ์เครื่องเขียน หนังสือเรียน เจ้าของเป็นคนจังหวัดสุโขทัย ได้มาเช่าอาคารแห่งนี้เปิดเป็นร้านจำหน่ายที่พิษณุโลกได้ 4 ปีแล้ว เปิดทำการทุกวันเวลา 08.00-19.00 น. ปิดวันอาทิตย์ ตัวอาคารมีทั้งหมด 6 ชั้น แต่ได้ใช้พื้นที่เก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เพียงแค่ 2 ชั้น และทุกวันหลังปิดร้านจะไม่มีพนักงานพักอาศัยอยู่ โดยมีมูลค่าสินค้าภายในร้านอยู่ประมาณ 15 ล้านบาท ขณะนี้ยังประเมินความเสียหายไม่ได้
สำหรับสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ จนท.ตำรวจ ต้องรอให้เพลิงสงบและความร้อนจากกองเพลิงเย็นลงก่อน จากนั้น จนท.พิสูจน์หลักฐานจะเข้าพิสูจน์หลักฐานในพื้นที่ว่าสาเหตุต้นเพลิงเกิดจากอะไรแน่ชัด