สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก นำกำลังเข้าจับกุมผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติสองฝั่งลำน้ำแควน้อย แผ้วถางป่าต้นน้ำ 11 ไร่ แล้วปลูกยางพารา ได้ผู้ต้องหา 4 ราย รถยนต์และรถไถ นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.วัดโบสถ์ดำเนินคดี ที่หมู่ 10 บ้านโป่งแค ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก
วันที่ 22 พ.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก นายสมบูรณ์ จำปาอูป ผอ.ส่วนป้องกันและรักษาป่า หน.หน่วยฯพล.9 ปากพาน หน.สำนักงานป่าสงวนแห่งชาติป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อย และตำรวจป่าไม้จับกุมนายนพดล แซ่ลิ้ม เจ้าของสวนยางพารา ข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ
ทั้งนี้ชาวบ้าน หมู่ 10 บ้านโป่งแค ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ได้ร้องเรียนพร้อมส่งแผนที่ว่า มีนายทุนจากภาคใต้เข้ามาครอบครอง บุกรุกแผ้วถางป่า ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำลำห้วยหยวก จากเดิมบริเวณผืนดินแห่งนี้ ชาวบ้านโป่งแคเคยอาศัยเก็บของป่าหากินมาเป็นเวลานาน แต่กลับถูกนายทุนบุกรุก
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จึงทำการดักซุ่มบริเวณดังกล่าว กระทั่งพบรถแทรกเตอร์ล้อยางเข้าไปปรับไถพื้นที่ถางวัชพืชในแปลงสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงแสดงตัวและจับกุมกลุ่มชายหญิงจำนวน 4 คน ซึ่งชาย 1 รายหนึ่งทราบชื่อต่อมาว่า นายนพดล แซ่ลิ้ม กำลังใช้กรรไกรตัดกิ่งของยางพารา ยอมรับว่าเป็นเจ้าของที่ดินแปลงสวนยาง อายุกว่า 1 ปี แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ นายนพพล น่าจะเป็นผู้ดูแลพื้นที่ให้กับเจ้าของนายทุนสวนยางภาคใต้มากกว่า
เจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงดำเนินการตรวจยึดพื้นที่จำนวน 11 ไร่ 2 งานเศษ เนื่องจากอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อย พร้อมยึดรถยนต์ 1 คัน และแทรกเตอร์ล้อยาง 1 คัน ยืนยันว่า การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ พร้อมแจ้งข้อหาแผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 และข้อหายึดถือครอบครองทำประโยชน์ แผ้วถาง เป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ทำบันทึกเรื่องราว เอกสาร หลักฐาน พร้อมแจ้งข้อหา นายนพดล แซ่ลิ้ม นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วัดโบสถ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนคนงานอีก 3 คน ถือว่า เป็นลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ป่าไม้กันไว้เป็นพยานตามคำสั่งของคสช.ไม่ได้ดำเนินการกับผู้ยากไร้