รถยนต์เก๋งเฉี่ยวรถจยย.ล้มหัวฟาดพื้นดับคาที่บนถนนมิตรภาพขาเข้าเมืองพิษณุโลก หนุ่มธ.ออมสินเห็นเหตุการณ์ขับรถไล่ตาม พร้อมโทรแจ้ง 191 พยายามบีบแตรกระพริบไฟให้จอดแต่ไม่สน เป็นผู้หญิงขับ รถโตโยต้าสีเขียว รุ่นเก่า ทะเบียน กข 2590 มหาสารคาม ขับวกหนีไปในตัวเมืองเมืองผ่าไฟแดงที่ห้าแยกโคกมะตูมจึงตามไม่ทัน วกกลับมาให้ข้อมูลตำรวจไม่อยากให้คนขี่จยย. ตายฟรี เหตุเกิดถ.มิตรภาพ หน้ารร.รัตนาปาร์ค อ.เมืองพิษณุโลก 18.00 น. 13 พย. 2557
เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 ร.ต.ท.สุวรรณ์ กูกขุนทด ร้อยเวรสภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ล้ม ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บนถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้าเมืองพิษณุโลก หน้าโรงแรมรัตนาปาร์ค ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวร และจนท.กู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลก
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหลักกม.ที่ 234 ถนนมิตรภาพ รถจักรยานยนต์ที่ถูกเฉี่ยวชน เป็นรถฮอนด้าคลิ๊ป สีดำ-ส้ม ทะเบียน ขพว.355 พิษณุโลก สภาพร่องรอยถูกเฉี่ยวชนที่ด้านด้าย ล้มลงอยู่เลนกลางของถนน ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร ผู้ขับขี่ชาย 1 ราย อายุระหว่าง 20-25 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนถนน มีเลือดไหลออกบนพื้นถนนจำนวนมาก ตรวจสอบภายในตัวผู้เสียชีวิต ไม่พบหลักฐานใด ๆ พบเพียงโทรศัพท์มือถือ 1เครื่อง ธนบัตรใบละ 20 บาท จำนวน 9 ใบ และบุหรี่ 1 ซอง ระหว่างที่จนท.กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็มีผู้โทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องของผู้เสียชีวิต ร้อยเวรจึงแจ้งให้ทราบว่าเจ้าของเครื่องประสบอุบัติเหตุโดนชนและเสียชีวิตแล้ว ให้ติดต่อกลับที่สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกับให้จนท.กู้ภัยข่าวภาพนำร่างผู้เสียชีวิตไปที่นิติเวชรพ.ม.นเรศวร ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายศักดิ์กิต วีระพาณิชย์ อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 105 หมู่ 9 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก
ต่อมา พลเมืองดีรายหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวได้กลับมาที่เกิดเหตุเพื่อให้ข้อมูลกับจนท.ตำรวจ พลเมืองดีรายนี้ชื่อนายมงคล แก้วทรัพย์ อายุ 26 ปี เป็นพนักงานธนาคารออมสินเขตพิษณุโลก 2 อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โดยเล่าเหตุการณ์ว่า เวลาประมาณ 17.55 น. ระหว่างที่ตนกำลังขับรถยนต์เข้าตัวเมืองพิษณุโลกผ่านสามแยกเรือนไปเมื่อมาถึงบริเวณหน้าโรงแรมรัตนาปาร์ค ได้เห็นรถยนต์เก๋ง โตโยต้าสีเขียว รุ่นเก่า ทะเบียน กข 3590 มหาสารคาม ขับอยู่เลนซ้าย ส่วนรถจยย.ขับอยู่เลนกลาง ระหว่างนั้น รถยนต์ได้หักเปลี่ยนเลนส์และเฉี่ยวรถจยย.ล้มลง ตนเห็นหมวกกันน็อคของผู้ขี่หลุดไปและหัวฟาดพื้น ช่วงนั้นยังไม่ทราบว่าคนขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์ชนแล้วหนี ตนจึงรีบขับรถยนต์ตามไป เพื่ออยากให้คนขับรถยนต์เก๋งรับผิดชอบ มุ่งหน้ามายังแยกไฟแดงหน้าสถานีขนส่งพิษณุโลกแห่งเดิม ก็ได้พยายามกระพริบไฟ และบีบแตรให้ผู้ขับรถคันดังกล่าวหยุดรถ แต่คนขับรถยนต์โตโยต้าไม่ยอมหยุด ซึ่งตนสังเกตเห็นว่าเป็นผู้หญิงเป็นคนขับ 1 คน ผมสั้น และได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้ และปรากฏว่ารถคันดังกล่าวก็ไม่ยอมหยุด
“เมื่อเลยแยกสถานีขนส่งมาได้เล็กน้อย รถยนต์ที่ชนได้เลี้ยวซ้ายเข้ามามาในถนนแสนพลพ่าย มุ่งสู่วัดโคกมะตูม และมาทะลุออกสู่ถนนพิชัยสงคราม จากนั้นก็ไปยูเทิร์น เลี้ยวรถกลับหน้าศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลก ตนก็ได้ขับรถตามไป แต่เมื่อมาถึงห้าแยกโคกมะตูม ปรากฏว่ารถคันก่อเหตุ ได้ผ่าไฟแดง เลี้ยวขวา ไปทางรพ.กรุงเทพพิษณุโลก บนถนนพระองค์ดำ ส่วนรถยนต์ตนขับตามไปไม่ทัน ติดไฟแดง โดยระหว่างช่วงที่ตามอยู่นั้นก็ได้โทรศัพท์แจ้ง 191 ถึงเหตุการณ์และไล่ตามรถยนต์คันดังกล่าว”
นายมงคล เผยต่อว่า หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาสอบถามตน และแจ้งให้ทราบว่า คนขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิตแล้วในที่เกิดเหตุ ตนจึงขับรถกลับมายังที่เกิดเหตุ ถ้าเราไม่กลับมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คนที่ประสบเหตุก็จะตายฟรี เพราะเราเห็นเหตุการณ์ เราก็ต้องมาช่วยเขา สงสารคนตายและครอบครัว