ล่าคนร้ายชกหน้าสาวชิงเงิน-โทรศัพท์หน้าวัดบ้านแถวอ.วังทอง

10743350_798693100169351_183240645_nตำรวจสภ.วังทอง เร่งตามล่าคนร้ายชิงทรัพย์สาวสถาบันเสริมความงาม หลังขี่รถจยย.ทุ่งหน้ากลับบ้านที่อ.บางกระทุ่ม  ถูกคนร้ายชาย 1 คน ขี่รถจยย.ตามประกบบังคับให้จอด ลงมือชกต่อย จนหน้าบอบช้ำ แล้วชิงทรัพย์เป็นโทรศัพท์มือถือและเงินสด 3,000 บาท  และบังคับให้นั่งหน้ารถคนร้ายไปด้วย เหยื่อตั้งสติบีบเบรกมือจนรถคนร้ายล้ม วิ่งหนีเข้าวัดบ้านแถว ให้พระภิกษุสงฆ์ช่วยเหลือ เจ้าตัวโพสต์ภาพทางเฟซบุ๊คประกาศแจ้งเตือนภัยหญิงสาวไปคนเดียวในที่เปลี่ยวให้ระวังภัยสังคม เหตุเกิดช่วงเวลา 22.30 น. 2 พย. 57 ถ.บึงพระ-แม่ระกา ม.1 ต.แม่ระกา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก10799375_798693080169353_245056286_n

 

เมื่อเวลา  10.00 น.วันที่  3 พ.ย.2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก  ได้พาตัว น.ส.นิภาพรณ์  อยู่ดี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/3 หมู่ 6 ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้าวัดบ้านแถว หมู่ 1 ต.แม่ระกา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก  หลังถูกคนร้าย ขับขี่รถจักรยานยนต์ประกบ และทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ช่วงเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

10743350_798693100169351_183240645_n

น.ส.นิภาภรณ์ ให้การว่า ตนเองทำงานอยู่ที่สถาบันเสริมความงามแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก    ปกติตนเองจะพักอยู่ในหอพักในตัวเมืองพิษณุโลก แต่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา มารดาได้โทรศัพท์มาหาตนเองว่าให้ซื้อของใช้ มาให้ที่บ้าน อ.บางกระทุ่ม หลังเลิกงานตนเองได้แวะซื้อของและกดเงินสดไปจำนวน 3,000 บาท  ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก ทะเบียน ขรฉ-738 พิษณุโลก  กลับบ้านพักที่ อ.บางกระทุ่ม โดยใช้เส้นทาง ถนนบึงพระ-แม่ระกา ช่วงนั้นเป็นเวลาประมาณ 22.30  น. เมื่อตนขับรถมาถึงหน้าวัดบ้านแถว หมู่ 1 ต.แม่ระกา  ได้มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี รูปร่างสันทัด ตัดผมรองทรง  สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้า กางเกงยีนส์ขายาว ขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน เป็นรถแบบหญิงสีแดง ได้ขับรถเข้าประกบและให้จอดรถ ก่อนที่คนร้ายทำทีถามทางว่าป้อมตำรวจอยู่ไกลไหม และถามว่าตนเองเป็นคนที่ไหน  เมื่อตนเองตอบไปและกำลังจะออกรถ คนร้ายได้ขับรถปาดหน้าและลงจากรถจักรยานยนต์มาดึงกุญแจรถของตนเองไป และพูดจาบังคับให้ตนเองไปขึ้นรถของคนร้ายตนไม่ยอมจึงถูกคนร้ายลงมือชกต่อยที่ลำตัวและใบหน้านับครั้งไม่ถ้วน จนหน้าตนเองบวมช้ำ ปากบวม974722_798693190169342_304020058_n

 

จากนั้นคนร้ายได้บังคับให้ตนเองไปนั่งด้านหน้ารถของคนร้าย ก่อนที่จะขับรถออกไป พอตนตั้งสติได้ ตนจึงได้กำเบรกหน้ารถของคนร้ายจนรถเสียหลักล้มลง ตนจึงได้ตัดสินในวิ่งข้ามกำแพงรั้วของวัดวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากพระสงฆ์ในวัดบ้านแถว  ก่อนที่คนร้ายจะขับรถย้อนกลับไปในตัวเมืองพิษณุโลก  โดยทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 1 เครื่องเงินสด 3,000 บาท   หลังจากนั้นตนจึงได้ติดต่อเพื่อนให้มารับไปส่งที่โรงพยาบาลและแจ้งความไว้ที่ สภ.วังทอง

capture_131

น.ส.นิภาภรณ์  เล่าให้ฟังอีกว่า ตนเองเป็นคนแถวนี้ และไม่เคยมีคดีที่คนร้ายชิงทรัพย์ในเวลาค่ำคืนแต่อย่างใด แต่เมื่อคืนกลับมีคนร้ายมาก่อเหตุกับตนเอง ถึงกลับเอาชีวิตไม่รอด ซึ่งคนร้าย พยายามก่อเหตุให้เหมือนคนรักมีปากเสียง และทะเลาะวิวาทกัน ทำให้คนที่สัญจรไปมาคิดว่าเป็นเรื่องของครอบครัว จึงไม่มีใครช่วยเหลือ กระทั่งตนเองต้องตั้งสติหนีรอดมาได้ ไม่เช่นตนเอง อาจถูกข่มขืนและเสียชีวิตได้ อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และหลังจากเกิดเหตุตนเอง ได้ลงภาพแจ้งเตือนสุภาพสตรีไว้ในเฟชบุ้ค เพื่อให้ผู้คนทั่วไปที่ขับขี่รถในยามค่ำคืนได้ระมัดระวังตัว

capture_132

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดถนนเส้นทางดังกล่าว เพื่อหาชายที่ขับรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย  พร้อมกับออกติดตามหาตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีที่ประทุษร้ายต่อร่างและทรัพย์สิน ผู้สื่อข่าวรายว่า เหตุคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ประกบ จี้ชิงทรัพย์สินเหยื่อ ในเวลาข้ามคืนนี้ มีบ่อยครั้ง แต่ละครั้งเหยื่อจะเป็นสุภาพสตรีที่ขับรถไปสถานที่เปลี่ยว  ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้ที่ก่อเหตุลักษณะนี้ได้เพียง 2 รายเท่านั้น

////////

แสดงความคิดเห็น