จากที่รัฐบาล อนุมัติมาตรการจำนำยุ้งฉาง เพื่อดำเนินการดูดซับข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเหนียวออกจากตลาดปริมาณ 2 ล้านตัน สำหรับชาวนาในภาคเหนือและภาคอีสาน โดยกำหนดราคาสินเชื่อไว้90เปอร์เซ็นต์ ของราคาเป้าหมายและชาวนาจะได้ค่าเก็บรักษาอีกตันละ 1,000 บาท รวมแล้วชาวนาจะได้รับเงินค่าข้าวหอมมะลิตันละ 15,400 บาท ส่วนข้าวเหนียวราคา 12,700 บาท กำหนดรายละไม่เกิน 20 ตันหรือ 300,000 บาท โครงการดังกล่าวเพื่อดูแลรายย่อย โดยยอมรับว่าเป็นประโยชน์ต่อชาวนามาก
สำหรับชาวนา ต.วังอิทก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นตำบลหนึ่งที่ยึดอาชีพชาวนามากถึง 600 ราย ในจำนวนมียุ้งฉาง ที่สร้างไว้จากรุ่นพ่อรุ่นแม่ อยู่จำนวน 46 แห่ง แต่ในจำนวนนี้สามารถใช้งานได้เพียง 40 แห่งเท่านั้น เนื่องจากสภาพยุ้งฉางที่มีอยู่ในอายุมากกว่า 40 ปี ทำให้มีสภาพเก่าผุพัง ถูกปลวกกินไม้จนผุกร่อนไปตามอายุการใช้งาน แต่ก็มียุ้งฉางหลายๆแห่ง ได้ใช้ไม้เนื้อแข็ง ทำให้มีสภาพดี สามารถใช้งานได้ดี โดยไม่ต้องปรับปรุงมากนัก และพร้อมตอบสนองแนวทางของรัฐบาล
นายสมยงค์ จ้อยทอง ชาวนา หมู่ 4 ต.วังอิทก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ตนเองมีที่ดินทำนาเพียง 23 ไร่ เป็นการทำนาต่อจากพ่อแม่ การทำนาการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ซึ่งในอดีตการทำนาหลังจาก ไถนา หว่าน ปักดำ(โดยคน) เก็บเกี่ยว ก็เกี่ยวข้าวมาตากให้แห้ง เก็บเป็นฟ่อน นวดสีฟัด นำข้าวเก็บเข้ายุ้งฉาง เพื่อรอให้พ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อข้าวไป ในแต่ละยุ้งฉางก็จะปิดป้ายประกาศขาย แต่ในปัจจุบันวิถีการทำนาข้าวชาวนาเปลี่ยน ไถ หว่าน ปักดำ(โดยเครื่องจักรปักเป็นแถว) หรือจะทำนาโยน รถไถเกี่ยวจนได้ข้าวออกมาเป็นเมล็ด นำส่งโรงสีขายข้าวเปลือกเมล็ดสด ถ้าช่วงไหนข้าวราคาดี ต้องการขายข้าวเปลือกที่ความชื้น 15 % ก็จะมีสามารถจ้างลานตากข้าว ตันละ 600-800บาท เพื่อจะขายข้าวได้ตันละกว่าหมื่นบาทก็มี แต่สำหรับโครงการจำนำยุ้งฉาง เมื่อกระบวนการทำข้าวไม่เหมือนเดิมข้าวเปลือกที่ตากแห้งแล้วสามารถเก็บในยุ้งฉางเพียง 4-5 เดือนเท่านั้นหากนานกว่านั้นข้าวจะเสียหาย และต้องระวังหากฝนสาดข้าวที่เก็บไว้ก็จะเสียหาย จึงอยากให้รัฐบาลทบทวน
นางบุญผ่อง อุ่นบุญ ชาวนา หมู่ 7 ต.วังอิทก อ.บางระกำ กล่าวถึงโครงการจำนำยุ้งฉางว่า ตนทำนา 58 ไร่ หลังเก็บเกี่ยวก็ขายให้กับโรงสี หรือเข้าโครงการจำนำของรัฐบาล จะเก็บข้าวไว้เฉพาะเป็นพันธุ์เพื่อทำนาครั้งต่อไปไว้ในยุ้งฉาง เพราะเป็นความเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของแม่โพสพ ทำให้ ปัจจุบันยุ้งฉางที่ชาวนายังคง มีไว้เพื่อเก็บอุปกรณ์ทำนา เป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูก ปุ๋ย ยา แต่ถ้าให้นำมาเป็นข้าว 20-30 ตัน อาจทำให้ข้าวเสียหาย เพราะการเก็บเกี่ยวข้าวในปัจจุบันเป็นข้าวสด
นายอนุพันธ์ แตงแสงจันทร์ อายุ 60 ปี ชาวนา หมู่ 3 ต.วังอิทก อ.บางระกำ กล่าวว่า ในส่วนของตนมีการทำนามาตลอด ปัจจุบันมีที่นากว่า30 ไร่ ที่บ้านมียุ้งฉางขนาดใหญ่สามารถเก็บข้าวได้ถึง 70 ตัน ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ดี แต่ปัจจุบันยุ้งฉางก็มีไว้เพื่อนำไว้เก็บเมล็ดพันธุ์ข้าว ยาฆ่าแมลง ปุ๋ย และเครื่องมือเท่านั้น แต่หากรัฐบาลมีนโยบายทำโครงการจำนำยุ้งฉาง ก็พร้อมทำเนื่องจากมียุ้งฉางขนาดใหญ่สามารถเก็บข้าวได้ แต่ต้องเก็บไว้ในระยะเวลาสั้นๆ เพราะข้าวมีอายุเก็บนานไปข้าวจะเสียหาย เพราะการเก็บข้าวที่ดีต้องสีเป็นเมล็ดข้าวสาร แต่ก็มีการใช้สารเคมีป้องกันมอดแมลง
สำหรับชาวนาอยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาข้าวให้อยู่ที่ ตันละ 8,000 บาท สำหรับข้าวความชื้น 15 %สำหรับข้าวนาปรัง ส่วนข้าวนาปี ตันละ 10,000 บาท เนื่องจากหลังจากหมดโครงการจำนำชาวนาในตำบลก็เริ่มหันมาทำข้าวคุณภาพดี เป็นข้าวหอมมะลิ ไว้ขายจะได้ราคาดี และหากขายไม่ได้ก็จะผลิตเป็นข้าวสารขายเอง จะได้ไม่ต้องถูกโรงสีกดราคาต่ำอย่างในปัจจุบัน
/////