ส่ง” จระเข้” ลุ่มน้ำคลองชมพู ไปบึงบอระเพ็ด ปากน้ำ ตรวจว่า สายพันธุ์ดุร้าย หรือ สายพันธ์พื้นเมือง รอพิสูจน์อีก 15 วัน หากเป็นสายพันธ์น้ำจืดหายาก ต้องปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ บริเวณหลังหน่วย สล.5 ทุ่งแสลงหลวง 
วันนี้ ( 29 ตุลาคม 2557) นายบุญสืบ เผือกอ่อน ชาวบ้านชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า วันนี้ชาวบ้านแห่กันมาดูจระเข้ ที่จับได้อยู่ภายในกรงเหล็ก บริเวณ หน่วย สล.5 ทุ่งแสลงหลวง(วังแดง) ยังไม่แน่ใจว่า ชาวบ้านวางกับดักไว้ริมคลองชมพู จะเป็นสายพันธ์พื้นเมือง หรือ สายพันธ์เลี้ยง จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดูจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทย ที่ศูนย์วิจัยประมง ที่บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ เนื่องจากมีขนาดใหญ่ น้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัม ความยาวประมาณ 1.8 เมตร ล่าสุดทำบันทึกข้อตกลง ในการตรวจสอบสายพันธ์ หากพบว่า เป็นสายพันธ์เมืองจะต้องนำจระเข้ไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ 
นายบุญชนะ ทองพูเขียว นายกอบต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เปิดเผยถึงจระเข้ที่ติดกับดัก ว่า ทางชาวบ้านในพื้นที่มีทั้งกลุ่มอนุรักษ์ที่ต้องการปล่อยจระเข้น้ำจืดสายพันธ์ไทย ที่ใกล้สูญพันธุ์ให้กับสู่แหล่งอาศัยตามธรรมชาติดังเดิม แต่ก็มีอีกกลุ่มคัดค้านเนื่องเกรงว่าจระเข้จะทำร้ายเด็กและประชาชนในหมู่บ้าน เพื่อพิสูจน์ว่าจระเข้ดังกล่าว เป็นจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย ลักษณะเดียวกันกับที่เคยเป็นข่าวสำรวจพบวางไข่ในคลองชมพู อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงก่อนหน้านี้หรือ เป็นจระเข้ สายพันธุ์ดุ เนื่องจาก จระเข้ที่พบ อยู่ห่างจากแหล่งอาศัยไกลถึง 20 กิโลเมตร เพื่อแก้ไขปัญหามวลชน ทางอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงที่ 5 หรือ สล.5 จึงได้ทำบันทึกข้อตกลงกับผู้นำท้องถิ่น อบต.ชมพู กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกรมประมง เพื่อนำจระเข้ไปตรวจสอบสายพันธุ์ให้ชัดเจน ที่ศูนย์วิจัยประมงน้ำจืดที่ บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์หากเป็นจระเข้น้ำจืด หากเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมจะต้องนำจระเข้ กลับมาปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติต่อไปภายใน 15 วัน 
นายบุญชนะ กล่าวว่า สำหรับจระเข้น้ำจืด มีชาวบ้าน ต.ชมพู พบมานาน 20-30 ปี แล้ว แหล่งอาศัยอยู่ในคลองชมพู จุดถ้ำน้ำน้อย มีน้ำขังตลอดปี โดยจุดดังกล่าวอยู่บนภูเขาห่างจากหมู่บ้าน ประมาณ 8 กิโลเมตร คาดว่าจะมีจระเข้อาศัยประมาณ 20 ตัว โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 มีชาวบ้านพบตัวและรังไข่ ฟ่อทิ้งไว้จำนวนหลายฟอง แนวทางชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ต้องการให้จระเข้น้ำจืดได้อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ เหมือนเดิม