เวลา 09.30 น. วันที่ 28 ตุลาคม 2557 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.พิษณุโลก พลตรีนพพร เรือนจันทร์ ผบ.พล.ร.4 นายภาสกร บุญญลักษม์ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก พ.ต.อ.ถวัลย์ บุญสูง ผกก.ตชด. 31 นายชลัยสิน โพธิเจริญ ผอ.ปปส.ภ.6 ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่จากจ.นครปฐม ที่ส่งยาไอซ์จำนวน 550.30 กรัม มูลค่าในตลาดประมาณ 1.5 ล้านบาท มาจำหน่ายให้เอเย่นต์ที่จ.พิษณุโลก โดยตามจับผู้ต้องหารายนี้คือนายรพีพงศ์ หรือ ชัย น้อยสุพรรณ์ อายุ 40 ปี ที่บ้านเลขที่ 4/48 ม.8 ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม
การจับกุมผู้ค่ายาเสพติดรายใหญ่ที่จ.นครปฐมครั้งนี้ ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดฝ่ายปกครอง จ.พิษณุโลก ที่มีนายภาสกร บุญญลักษม์ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก สนธิกำลัง ตำรวจ ทหาร ปกครอง และปปส.ภ.6 ขยายผลจากการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในจ.พิษณุโลกได้รายหนึ่ง เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยสืบทราบข้อมูลว้า จะมีการลักลอบนำยาเสพติดจากภาคกลางเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่จ.พิษณุโลก จึงวางแผนล่อซื้อเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557 สามารถจับกุมน.ส.วรรณนภา หรือ บี พัดพ่วง พร้อมของกลางยาบ้า 1,000 เม็ด และยาไอซ์ น้ำหนัก 52.94 กรัม น.ส.วรรณนา พัดพ่วง ให้การรับสารภาพว่า สั่งซื้อยาเสพติดมาจากนายชัย ที่จ.นครปฐม โดยส่งมาทางรถตู้โดยสาร จนท.จึงวางแผนล่อซื้อ ให้นางวรรณนภา สั่งซื้อยาไอซ์มาจากนายชัยอีก จำนวน 1 กิโลกรัม เป็นจำนวนเงิน 1.5 ล้านบาท และมีการส่งสินค้าทางรถตู้โดยสารกรุงเทพ-พิษณุโลก โดยใช้ชื่อผู้รับคือน.ส.วรรณนภา ให้ไปรับริมถนนพิษณุโลก-นครสวรรค์ หน้ามหาวิทยาลัยนเรศวร หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงจึงได้ไปรับของดังกล่าวพบเป็นกล่องกระดาษจำนวน 3 ใบ ด้านหน้าเขียนชื่อผู้ส่งจากร้านรวมเกษตร โดยใส่หมายเลขของนายรพีพงษ์ ภายในมีขวดพลาสตกจำนวน 12 ใบ และภายในได้บรรจุยาไอซ์จำนวน 10 ซอง น้ำหนักรวม 550.30 กรัม ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขออนุมัติหมายจับเข้าจับกุมตัวนายรพีพงษ์ที่บ้านพัก ที่จ.นครปฐม
นายภาสกร บุญญลักษณ์ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ทางฝ่ายปกครองได้ทำการล่อซื้อยาบ้าจากนางสาวบี แล้วทำการขยายผล จนสามารถจับกุมตัวนายชัย เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า กระทำมาแล้ว 2 ครั้ง โดยจะบรรจุหีบห่อตบตาเจ้าหน้าที่ไว้ภายในบ้านที่ จ.นครปฐม แล้วส่งให้ลูกค้า แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในที่สุด เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองก็จะส่งตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกับจะให้ทาง ปปส.ภ.6 ทำการขยายผลเครือข่ายรายนี้ต่อไป เพราะชื่อว่าการขนยาล็อตนี้ จะต้องมีผู้ติดตามมาอีก เพราะปริมาณและมูลค่าค่อนข้างมาก และมีโทษหนักถึงประหารชีวิต และเป็นที่น่าสังเกตว่า ขบวนการลักลอบจำหน่ายและขนยาเสพติดที่จับกุมได้ครั้งนี้ เป็นการส่งยาเสพติดจากภาคกลางขึ้นมาสู่ภาคเหนือ ซึ่งแตกต่างจากขบวนการขนยาเสพติดทั่วไป ที่ขนมาจากภาคเหนือสู่ภาคกลาง ทำให้การเข้มงวดในการตรวจตราตามด่านต่าง ๆ มีน้อยกว่า อีกทั้งการขนส่งก็ตบตาจนท.โดยใช้วิธีฝากส่งมาทางรถตู้