แม่น้ำน่านลดอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านในชุมชนพันปี งมพบหอยกาบยักษ์ ขนาดใหญ่เท่า 1 ฝ่ามือ กว้าง 10 เซนติเมตร ยาว 20 เซนติเมตร น้ำหนัก 3 ตัว หนักประมาณ 1 กิโลกรัม นาน ๆ จะเจอสักครั้ง ส่วนใหญ่พบแต่ตัวเล็ก แต่แรกจะนำมารับประทาน แต่ด้วยอายุเก่าแก่หลายสิบปี ปล่อยคืนธรรมชาติ เพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์ ริมฝั่งแม่น้ำน่าน ใกล้เคียงชุมชนวัดพันปี ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ต.ค. 2557 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้านที่ลงไปหาปลาในแม่น้ำน่าน บริเวณใกล้เคียงชุมชนวัดพันปี ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ได้งมพบหอยกาบยักษ์ขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบ โดยที่ริมตลิ่งแม่น้ำน่านมีชาวบ้านกำลังช่วยกันลงน้ำเพื่องมหาหอยตามโขดหิน แล้วนำขึ้นมากองไว้บนฝั่ง พบว่าเป็นหอยกาบยักษ์ขนาดใหญ่กว่า 1 ฝ่ามือ กว้าง 10 เซนติเมตร ยาว 20 เซนติเมตร น้ำหนัก 3 ตัว หนักประมาณ 1 กิโลกรัม คาดว่าหอยกาบแต่ละตัวน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 10 ปี และชาวบ้านไม่เคยพบเห็นหอยกาบที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ในแม่น้ำน่านมาก่อน ซึ่งอาจเป็นเพราะความสมบูรณ์ของลำน้ำน่าน หรือ ระดับน้ำน่านลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้หอยกาบยักษ์ออกมาหากินเศษซากพืช หรือปลาตัวเล็กๆ
ด้านนายเทียน กลางสือ อายุ 30 ปี ชาวบ้านที่มางมหาหอยกาบ กล่าวว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตนและเพื่อนบ้านได้มาลงหาสัตว์น้ำในแม่น้ำน่านเพื่อนำมารับประทานกันตามปกติ ขณะที่ลอยคอเลียบริมฝั่งไปพบกับโขดหิน และตอไม้ เมื่อใช้มือลูบคลำดูก็ไปเจอกับหอยขนาดใหญ่ จึงนำขึ้นมาให้เพื่อนบ้านดูก็พบว่าเป็นหอยกาบจำนวนมาก โดยปกติจะพบแต่หอยที่มีขนาดเล็กเท่านั้น แต่จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน ก็พบว่าบริเวณแม่น้ำน่านบริเวณชุมชนวัดพันปี ก็เคยจับหอยกาบยักษ์ เมื่อเกือบ 10 ปีมาแล้ว แต่หลังจากนั้นก็หายไป ไม่เจออีกเลย จนกระทั่งปีนี้แม่น้ำน่านได้ลดลง ตนเองและเพื่อนบ้านก็หวังไปจับหอยจับปู มากินตามปกติ แต่กลับเจอหอยกาบยักษ์ตัวขนาดใหญ่ ตนจะเลี้ยงไว้ที่บ้านเพื่อให้คนที่สนใจมาศึกษาเยี่ยมชมสักระยะหนึ่ง แล้วก็จะนำกลับไปปล่อยไว้ในแม่น้ำน่านตามเดิม เพื่อให้หอยกาบยักษ์ดำรงชีวิตและขยายพันธุ์ตามธรรมชาติคู่แม่น้ำน่าน จ.พิษณุโลก ต่อไป.
จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า หอยกาบยักษ์ เป็นหอยกาบชนิดหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำทางธรรมชาติ เหตุที่มีกาบใหญ่นั้น เนื่องจากหอยกาบ ได้อาศัยอยู่แหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ มาเป็นเวลานาน ทำให้มีขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่จะพบมากตามแหล่งน้ำจืดทั่วทุกภาคของประเทศ และมีการอนุรักษ์ไว้เพื่อให้ประชาชนรุ่นหลังได้ศึกษาแหล่งธรรมชาติและระบบนิเวศที่สมบูรณ์
/////////