วันที่ 8 ตุลาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบการเลี้ยงปลากระชัง ในพื้นที่ ต.บ้านไร่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ว่าช่วง 2-3 วันที่ผ่าน แม่น้ำน่านได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้เริ่มส่งผลให้ปลาในกระชังเริ่มขาดอ๊อกซิเจนตายบางส่วน ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่กระชังปลาของนางศิริรัตน์ เลขพัฒน์ เลขที่ 96 ม.1 ต.บ้านไร่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดในพื้นที่ ต.บ้านไร่ เลี้ยงปลาไว้ประมาณ 150 กระชัง ประกอบด้วย ปลานิล ปลาทับทิม และปลากดกด ซึ่งมีหลายขนาด ขณะนี้เริ่มมีปลาทยอยตาย วันละ 4-5 ตัวต่อกระชัง คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากระดับน้ำที่เริ่มลดต่ำลง ปริมาณออกซิเจนในน้ำอาจมีไม่เพียงพอ ส่งผลให้ปลาเริ่มน๊อคน้ำตายบางส่วน ขณะที่ผู้ประกอบการเลี้ยงปลากระชังบางราย ที่ไม่ได้ทำหน้ากันดินริมตลิ่งไว้ ต้องช่วยกันดีดกระชังลงไปในแม่น้ำอีก ให้พ้นตลิ่ง เพื่อให้ปลาได้สัมผัสกับน้ำ ขณะเริ่มสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ที่เลี้ยงปลาในกระชังแล้วหลายราย
นายประจวบ บวบนา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.1 ต.บ้านไร่ อ.บางระทุ่ม จ.พิษณุโลก ผู้เลี้ยงปลากระชัง กล่าวว่า ปกติทุกปีทางชลประทานจะปล่อยน้ำ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นชาวนา และผู้ที่เลี้ยงปลาในกระชังในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ พิษณุโลกและ พิจิตร แต่เมื่อ2-3 วันที่ผ่านมาน้ำในแม่น้ำน่านลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ที่เลี้ยงปลาในกระชังต้องช่วยกันปรับลดกระชังตามระดับน้ำ จนกระชังที่ไม่ได้ทำแนวหน้ากันตลิ่ง ต้องเกยตื้น ปลาเริ่มตายลงบางส่วน บางรายไม่รู้ทำอย่างไร ก็ได้เพียงแค่ย้ายปลาในกระชังที่เกยตื้นไปไว้ในกระชังที่มีน้ำ บางรายที่ปรับระดับกระชังให้เข้ากับแม่น้ำได้อีกก็ต้องทำ เพื่อให้ปลาไม่ตายและเสียหายได้
นายประจวบฯ กล่าวอีกว่า ปกติในทุกปีจะเริ่มประสบปัญหาน้ำลดระดับเข้าขั้นวิกฤตในช่วงเดือน เมษายน – พฤษภาคม แต่ในปีนี้ น้ำเริ่มลดระดับต่อเนื่องตั้งแต่เดือนตุลาคม คาดว่าสถานการณ์น้ำในปีนี้ ต่อเนื่องต้นปีหน้า คงน่าเป็นห่วง ตอนนี้ต้องเฝ้าระวัง ถ้าน้ำลดระดับลงต่อเนื่องไม่หยุด และทางเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อย ยังไม่ปล่อยน้ำลงมาช่วย ผู้ประกอบการกระชังปลาคงต้อง รีบจับปลาขายก่อน ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้ขนาด เพราะกลัวว่าหากน้ำลดลงจนแพเกยตื้น ปลาจะเริ่มตายลงมากกว่านี้ คงขาดทุนแน่นอน