วันที่ 14 กันยายน 2557 สถานการณ์น้ำท่วมจ.พิษณุโลกยังคงเฝ้าติดตามในเขตอ.บางระกำ น้ำยมหลากจากจ.สุโขทัยปีนี้ อยู่ในเกณฑ์ต่ำ และชาวอ.บางระกำแทบไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากพื้นที่การเกษตรนาข้าวได้เก็บเกี่ยวผลผลิตหมดแล้ว ในทางกลับกัน ชาวอ.บางระกำ อ.พรหมพิราม กลับต้องการให้มีน้ำหลากท่วมทุ่งมากกว่า ด้วยต้องการเก็บน้ำไว้ใช้ในการทำนารอบต่อไป และกำจัดวัชพืช ตัดวงจรชีวิตหนูนาที่กำลังแพร่ระบาด และภาพรวมของปีนี้น้ำหลากท่วมทุ่งในเขตอ.บางระกำน้อยมาก เมื่อเทียบกับสถิติรอบ 10 ปีที่ผ่านมาที่จะมีน้ำท่วมทุ่งนาในระดับสูง วงกว้าง และท่วมขังนาน 1-3 เดือน โดยวันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่อ.บางระกำ ที่สถานีวัดระดับน้ำ Y 16 อยู่ที่ 7.53 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 10 เซนติเมตร มีน้ำล้นตลิ่งและหลากมาจากจ.สุโขทัยท่วมทุ่งนาจำนวนหนึ่งในเขตต.ชุมแสงสงครามอ.บางระกำ
นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน สำนักชลประทานที่ 3 กรมชลประทาน กล่าวถึงการส่งน้ำในระยะนี้ว่า ฤดูน้ำหลาก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จะเป็นพื้นที่รับน้ำ แต่ที่สำคัญ วิถีชีวิตชาวบางระกำ เมื่อท่วมแล้วจะได้อะไร มากกว่า ชาวบ้านได้พยายามปรับวิถีชีวิตมานานมากแล้ว แต่การส่งน้ำก็จะเป็นส่วนช่วยโดยเมื่อน้ำท่วมแล้ว ก็ต้องเอาน้ำนี้มาเก็บในทุ่ง ที่อยู่ในช่วงเว้นการทำนา ทำสวน ทำไร่ ทั้ง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย และ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ถือว่าเป็นพื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 3 แสนไร่เศษ ซึ่งแต่เดิมการทำการเกษตร หรือใช้น้ำในพื้นที่นี้ ต้องใช้น้ำจากชลประทานถึงประมาณ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่หากเมื่อเอาน้ำท่วมนี้เก็บไว้ได้ เราจะสามารถเก็บกักได้ถึง 2 ล้านลูกบาศก์เมตร เราจะประหยัดน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ได้มาก แต่เมื่อพอถึงเดือนพฤศจิกายน น้ำลดลง ชาวนาบางระกำก็จะเริ่มทำนากัน โดยใช้น้ำเหลือจากท่วม ส่วนจะเริ่มประสบภัยแล้งอีกครั้งก็ประมาณ มกราคม – มีนาคม ก็จะปล่อยน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ มาช่วย นี่ถือว่าเป็นวิถีการจัดสรรน้ำในพื้นที่ อ.บางระกำ โดยชลประทานที่ 3 ได้มีการลงพื้นที่ พบปะผู้นำชุมชนทุกวัน เพื่อรับข้อมูลจากชาวบ้านจริง ๆ เพื่อให้การช่วยเหลือทั้งน้ำแล้งและน้ำท่วม
ขอบคุณรายงานสถานการณ์น้ำหลากพิษณุโลกจากคุณสุรเชษฐ์ มากร