วันที่ 9 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทางการเกษตร หลังจากทางจังหวัดพิษณุโลก มีพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 3 อำเภอ คือ อ.บางระกำ อ.พรหมพิราม และ อ.เมือง มีพื้นที่เกษตรกระได้รับความเสียหาย 38,000 ไร่ ทางกรมชลประทานได้นำแผนบริหารจัดการน้ำ เปิดประตูระบายน้ำตามจุดต่างๆ โดยเร่งผันน้ำจากแม่น้ำยม ลงสู่แม่น้ำน่านโดยใช้เส้นคลอง DR 2.8 และครองDR 15.2 เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังลงสู่แม่น้ำน่าน ในปริมาตร 178 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะที่มวลน้ำสะสมในพื้นที่ 3 อำเภอ อยู่ที่ 60.7 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาตรน้ำถือว่าทรงตัว ถ้าภายในวันสองวันถ้าไม่มีฝนตกลงมาปริมาณน้ำจะลดลง
นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลกสามารถรองรับน้ำที่เก็บไว้ได้กว่า 750 ล.ลบ.ม.ทำให้สถานการณ์น้ำในจังหวัดพิษณุโลก ยังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก ทางกรมชลประทานได้ทำความเข้าใจกับเกษตรกร 3 อำเภอ ให้เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อเตรียมพื้นที่ ในการรองรับน้ำระลอกไหม้ที่จะมาถึงไว้ 1 แสนไร่ หลังจากชลประทานได้ทำการสำรวจพบว่า พื้นที่ความเสียหายใน อ.พรหมพิราม มีพื้นที่ความเสียหาย 4 ตำบล ต.วังวน ต.หนองแขม ต.พรหมพิราม และ ต.ท่าช้าง ส่วน อ.บางระกำ คือพื้นที่ ต .บางบ้า ต.ชุมแสงแสงคราม และอ.เมือง ได้แก่ ต.บ้านกร่าง หลังจากนี้ภาครัฐจะได้ให้ความช่วยเหลือต่อไป