วันที่ 7 กย. 2557 รายงานสถานการณ์น้ำจ.พิษณุโลก เช้านี้แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านตัวเมืองพิษณุโลกระดับลดลงเล็กน้อย ที่เชิงสะพานเอกาทศรถอยู่ที่ 4.58 เมตร สภาพน้ำแดงและขุ่นมาก เช้าวานนี้อยู่ที่ 5.18 เมตร ส่วนแม่น้ำยม มวลน้ำก้อนใหญ่ได้ไหลผ่านเขตจ.สุโขทัยเข้าสู่เขตจังหวัดพิษณุโลกแล้ว น้ำจากแม่น้ำยมสายเก่า คลองเมม ต.ท่าช้าง เริ่มไหลล้นตลิ่งในที่ต่ำ ส่วนแม่น้ำยมที่อำเภอบางระกำเช้านี้อยู่ที่ระดับ 6.83 เมตร ระดับตลิ่งอยู่ที่ 7 เมตร
ส่วนช่วงบ่ายวานนี้ 6 กย. 57 ที่ริมลำคลองบางแก้ว หรือแม่น้ำยมสายเก่า บ้านคลองปลากราย ม.1 5 ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก นาย ระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเรื่องการช่วยเหลือและประเมินสถานการณ์น้ำของจังหวัดพิษณุโลก รุดตรวจเยี่ยมประชาชน โดยเยี่ยมบ้านลอยน้ำที่จังหวัด ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก และบริษัทเอกชน จัดสร้างให้ชาวบ้านจำนวน 5 หลัง ว่ายังคงสภาพที่จะลอยน้ำได้หากเกิดปัญหาน้ำท่วม และมอบถุงยังชีพให้เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ
และได้ฟังสรุปสถานการณ์น้ำจาก นาย บัณฑิต อินต๊ะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จังหวัดพิษณุโลก หลังจากที่เดิมมีการประเมินว่า วันนี้น้ำที่มีปริมาตรจำนวนมากระลอกแรก ที่ผันสู่แม่น้ำยมสายเก่าได้หลากมาจาก อำเภอสวรรคโลก ผ่าน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย และผ่านอำเภอพรหมพิราม และ เข้ามาท่วมอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก แต่ขณะนี้กลับกลายเป็นว่า ปริมาณน้ำส่วนใหญ่ได้กระจายเข้าสู่ผืนนา และบ้านเรือนประชาชนในเขตอำเภอกงไกรลาศ โดยกระจายแบบไม่ท่วมหนัก ทำให้น้ำในแม่น้ำยมสายเก่าวันนี้ มีระดับที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยังไม่เอ่อล้นตลิ่งท่วมอำเภอบางระกำตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ต้องรอประเมินสถานการณ์น้ำระลอกที่ 2 ที่เพิ่งเพิ่มระดับสูงสุดจาก อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย เมื่อ 21.00 น.ที่ผ่านมานี้ก่อนว่าจะมาสมทบอีกหรือไม่ ส่วนเมื่อช่วงเช้าก็ยังเกิดฝนตกหนักที่ ต.ห้วยสัก อำเภอสอง จังหวัดแพร่ เกินกว่า 100 มิลลิเมตรซ้ำอีก ทำให้น้ำในแม่น้ำยมจากวังหวัดแพร่ ระลอกที่ 3 กำลังมาสะสมที่สุโขทัยอีก แต่ก็คาดการณ์ว่าจะสามารถจัดการระบายได้ แต่ก็คงจะล้นออกจากแม่น้ำยมบ้าง
ในขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ระบุว่าได้สอบถามผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ทั้งอำเภอบางระกำและ อำเภอพรหมพิรามแล้ว มีความต้องการใน 3 ประเด็นคือ ประการแรก อยากให้ทางการเลื่อนการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อสิทธิต่าง ๆ จากเดิมเดือนมีนาคม ออกไปอยู่ช่วงเดือนเมษายน แทน และขอให้ชลประทานปล่อยน้ำในช่วงเดียวกัน เพื่อหลีกช่วงน้ำท่วมหรือกำหนดห้วงการทำการเกษตรอย่างถูกต้อง อย่างเช่นปีนี้ที่เกษตรกรไม่มีผลกระทบและวิตกต่ออุทกภัยเพราะเก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วกว่า 90 % และประการสุดท้ายชาวบ้านได้ขอให้มีการสร้างประตูน้ำที่ ตำบลท่านางงาม พร้อมคันถนนสูง 2 เมตรเศษ ระยะทาง 2 กิโลเมตร ริมแม่น้ำยมสายเก่า เพื่อประโยชน์ต่อการทำการเกษตรกว่า 170,000 ไร่ และจะทำให้ชาวบางระกำ มองปัญหาน้ำท่วมเป็นโอกาสมากกว่า โดยวันนี้ชาวบางระกำระบุว่าหากเกิดน้ำท่วมต่อจากสุโขทัย ก็ไม่วิตก เพราะสามารถปรับสภาวะต่าง ๆ รับมือไว้แล้วอย่างเป็นโอกาสมากกว่า
ขอบคุณรายงานสถานการณ์น้ำท่วมจากคุณสุรเชษฐ์ มากร