เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 57 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพระครุสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ อ.เมืองพิษณุโลก ว่า ตลอดทั้งวันมีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปหินดำภายในวิหารหลวงพ่อทองดำ โดยมีแสงหลากหลายแบบแตกต่างกันไป จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบมีนักท่องเที่ยวทั้งหญิงชายต่างใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพหินดำกันอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากถ่ายภาพออกมาแล้ว ปรากฏว่ามีลำแสงในลักษณะแตกต่างกันไป สร้างความตื่นเต้นและแปลกประหลาดกันอย่างมากทั้งนี้พระครูสิทธิธรรมวิภัช ได้เข้ามาสังเกตเพื่อพิสูจน์ โดยใช้กล้องมือถือถ่ายเก็บเอาไว้ โดยไม่ได้ใช้แฟลชถ่ายภาพ แต่ก็มีเส้นลำแสงจากก้อนหินดำดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะต่างกัน มีทั้งเป็นวงรี คล้ายดวงตาสองดวง และดวงตาใหญ่ดวงเดียว และเป็นแสงซ้อนเป็นชั้นๆหลายเส้น โดยแต่ละคนถ่ายภาพแสงได้คนละแบบแตกต่างกัน นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวที่ถ่ายภาพต่างมองหาเลขเด็ด ได้ตีไปตามความเชื่อของตนเองที่มองเห็นนายอภิรัตน์ ถ้อยทด อยู่บ้านเลขที่ 2/1 ม.11 ต.ย่านยาว อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย กล่าวว่า วันนี้ได้พาญาติจากรุงเทพเดินทางมาเที่ยวที่ตัวเมืองพิษณุโลก โดยตั้งใจมาที่วัดราชบูรณะ เนื่องจากค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวมาก่อนแล้ว โดยได้เข้ามากราบไหว้ในวิหารหลวงพ่อทองดำ ซึ่งเป็นพระประธานขนาดใหญ่ติดทองเหลืองอร่ามสวยงาม นอกจากนั้นยังพบก้อนหินประหลาดที่ตั้งอยู่หน้าพระประธาน จึงได้ใช้กล้องมือถือและไอเพคถ่ายเก็บไว้ดู ปรากฏว่าภาพที่ออกมามีลำแสงจากหินแบบต่างๆ ทั้งที่ไม่ได้ใช้แฟลช หลายคนเกิดความประหลาดใจ นอกจากนั้นยังมองเห็นเหมือนตัวเลขแตกต่างกันไปอีกด้วยด้านพระครูสิทธิธรรมวิภัช กล่าวว่า หินดำดังกล่าว ทราบว่ามีการขุดพบระหว่าง ปี 2501-2502 ซึ่งมีการตัดถนนมิตรภาพ ซึ่งกินพื้นที่เข้ามาในบริเวณวัดราชบูรณะ และพบก้อนหินดำ มีน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม สภาพแกร่งแข็งมาก มองผิวเผินคล้ายหลังเต่า และคล้ายนิลเพราะดำสนิท จึงได้นำมาเก็บไว้ที่ฐานพระประธานหลวงพ่อทองดำ โดยไม่ได้นำเอาออกมาไว้ที่หน้าพระประธาน กระทั่งเมื่อกว่า 10 ปี ที่ผ่านมา ได้นำมาวางที่บริเวณหน้าพระประธานตรงจุดที่คนเข้ามากราบไหว้ จนมีคนมาถ่ายรูปพบมีลำแสงลักษณะต่างๆ ทำให้มีนักท่องเที่ยวแห่กันมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และมีบางคนตีเป็นเลข เพื่อเอาไปเล่นหวยขึ้นอยู่กับความเชื่อแต่ละคน ให้พิจารณาเอาเองอย่างงมงาย แต่ขอให้เชื่อในการทำความดีเท่านั้นพอ