เมื่อเวลา
00.00 น. วันที่ 31 ส.ค.2557
พ.ต.ท.สันตสิริ เมตตาวงศ์ พงส.ผนก.สภ.เมืองพิษณุโลก
ปฏิบัติหน้าที่อยู่ มีนายสุรัตน์ สุขหร่อง อายุ 47 ปี
บ้านเลขที่ 459/1046 หมู่ 7 ต.สมอแข
อ.เมือง จ.พิษณุโลก เดินทางเข้ามาขอมอบตัวพร้อมนำอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อซีแซด ขนาด 9
มม.ที่ใช้ในการก่อเหตุยิงเข้าใส่รถทัวร์บริษัทนครไทยแอร์
ที่มีนายเจริญ นิ่มอุ่น อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 52/121
หมู่ 6 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก
ผู้ขับขี่ขณะจะนำรถกลับไปจอดที่อู่จอดรถ ทำให้รถทัวร์ตกถนนและ
นายเจริญถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บ
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา
21.00 น. วันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา
ศูนย์ปฏิบัติการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 บก.ภ.จว.พิษณุโลก
รับแจ้งมีผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่รถทัวร์ทำให้รถทัวร์เสียหลักตกถนนและผู้ขับขี่รถถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บ
เหตุเกิดที่บริเวณถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครพิษณุโลก หลังรับแจ้งพนักงานสอบสวน
สภ.เมืองพิษณุโลก
เดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานและชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง
ในที่เกิดเหตุพบ รถทัวร์โดยสารเปล่าไม่มีผู้โดยสาร ของบริษัทนครไทยแอร์ สีขาว-ฟ้า
ทะเบียน 30-0261 อยู่ในสภาพตะแคงตกลงไปอยู่ข้างถนน
กระจกหน้ารถแตกมีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน จำนวน 4 รู
บนรถพบเพียง นายเจริญ คนเดียวเป็นผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงเข้าที่บริเวณเหนือข้อศอกซ้าย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลพุทธชินราชรักษาตัว
ขณะที่มีพลเมืองดีให้เบาะแสกับพนักงานสอบสวนว่าผู้ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่รถทัวร์ขับขี่รถยนต์กระบะ
ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง
ทะเบียน กต-7447 พิษณุโลก
หลังก่อเหตุได้ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางสี่แยกอินโดจีน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ติดตามไปพบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ภายในบริเวณแคมป์คนงานที่อยู่ระหว่างก่อสร้างบ้าน
ริมถนนสายพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 7 กิโลเมตร
โดยไม่พบตัวผู้ขับขี่ในที่เกิดเหตุ
รถคันดังกล่าวมีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนได้รับความเสียหายที่บริเวณด้านข้างซ้ายของตัวรถเป็นทางยาวคิวล้อหน้าหลุดหาย
ตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 2 ปลอกตกอยู่กระบะหลัง
กระทั่งเมื่อเวลา
00.00 น. วันที่ 31 ส.ค.นายสุรัตน์
ผู้ก่อเหตุและเป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน
พร้อมให้การอ้างว่า ระหว่างที่ตนเองและ นายท๊อป ซึ่งเป็นลูกน้องตนพากันออกไปรับประทานอาหาร
ขณะที่ตนเร่งเครื่องเพื่อแซงรถทัวร์คันดังกล่าวพร้อมตีไฟให้สัญญาณขอเข้าเลนส์ซ้ายผู้ขับขี่รถทัวร์โดยสารกลับไม่ยอมให้ตนแซงเพื่อเปลี่ยนเลนส์
เมื่อตนชะลอความเร็วรถผู้ขับขี่รถทัวร์ก็ชะลอความเร็วตาม จากนั้นผู้ขับขี่รถทัวร์ได้เร่งเครื่องมาเฉี่ยวชนที่บริเวณด้านท้ายรถตนพร้อมเร่งความเร็วขับขี่หนีออกไป
ตนจึงไล่ติดตามไปโดยเปิดกระจกตะโกนว่าพี่ชนรถผมจอดรถคุยกันก่อน
แต่ผู้ขับขี่รถทัวร์กลับพุ่งเข้าชนรถของตนอย่างรุนแรงอีกครั้งทำให้รถตนเสียหลักหมุนขวางเส้นทางสัญจร
เมื่อหยุดรถได้ นายท๊อป
ลูกน้องตนได้วิ่งไปหยิบเหล็กแป๊ปที่อยู่บริเวณท้ายกระบะตนวิ่งเข้าไปตีเข้าที่กระจกของรถทัวร์
ส่วนตนได้วิ่งไปพยายามเปิดประตูของรถทัวร์แต่ไม่สามารถเปิดได้
จากนั้นผู้ขับขี่รถทัวร์ได้พยายามขับขี่หนีออกไปอีกครั้ง
ตนจึงไล่ติดตามไปอีกด้วยความโมโหตนจึงได้ชักอาวุธปืนพกที่วางอยู่ใต้เบาะออกมายิงเข้าใส่ไปที่บริเวณกระจกของรถทัวร์จำนวนหลายนัดกระทั่งเห็นรถทัวร์เสียหลักตกลงไปข้างถนนตนจึงได้ขับขี่หลบหนีไปด้วยความตกใจ
ก่อนตั้งสติได้จึงรีบเดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนดังกล่าว