พ่อค้าข้าวต้มขึ้นป้ายประชดโจรขโมยรถ

48504วันที่ 28 ส.ค.2557 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียหายเนื่องจากถูกคนร้ายขโมยรถจักรยายนต์แล้วขึ้นป้ายชะชดโจรว่า  “กราบเรียน โจรที่เคารพ มาขโมยรถผมเอาเมียผมไปดีกว่า เอามาคืนเหอะ หนี้ผมเยอะ” ผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบที่ร้านข้าวต้มลุงโช ตั้งอยู่เลขที่  177 ถนนสังฆบูชา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก  โดยที่หน้าร้านพบป้ายไว้นิลขนาด 1 เมตร คูณ 1 เมตร  สีแดงติดไว้หน้าร้าน  มีข้อความว่า “กราบเรียน โจรที่เคารพมาขโมยรถผมเอาเมียผมไปดีกว่า เอามาคืนเหอะ หนี้ผมเยอะ”  เป็นที่สนใจของผู้ที่ผ่านไปมาบริเวรดังกล่าว

จากการสอบถามนายเกรียงศักดิ์  ระเวชโฉม อายุ 36 ปี เจ้าของร้านข้าวต้มลุงโช เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้เปิดร้านข้าวต้มโต้รุ่งที่บ้านหลังดังกล่าวมา 8 ปี แล้ว และได้พักอาศัยอยู่ห้องด้านหลัง ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเรื่องลักขโมย โดยวันเกิดเหตุคืนวันที่ 26  ส.ค.ที่ผ่านมาหลังจากที่ตนเองเปิดร้านอาหารและเก็บร้านเข้าห้องนอนในช่วงเวลาของ 01.00 น.โดยที่จอดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮฮนด้า รุ่นเวฟ ไอ สีน้ำเงิน-ขาว ทะเบียน  1กก -677 พิษณุโลก ไว้หน้าร้านโดยที่ไม่ได้ล็อคคอรถและบริเวณหน้าร้านไม่มีประตูปิด ในคืนเกิดเหตุมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จนกระทั่งรุ่งเช้าตนเองต้องตื่นไปซื้อกับข้าวเตรียมไว้ขายของ จึงพบว่ารถจักรยายนต์ขอตนเองได้หายไป จึงได้เข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก60572

หลังจากที่ไปแจ้งความนั้น ตนเองได้ไปที่ร้านทำป้ายไว้นิลและตัดสินในเขียนข้อความ  “กราบเรียน โจรที่เคารพ มาขโมยรถผมเอาเมียผมไปดีกว่า เอามาคืนเหอะ หนี้ผมเยอะ” เพื่อประชดโจร เพราะว่ารถคันที่หายไปตนเองต้องส่งเงินกับไฟแนนซ์ อีก 15 เดือน เดือนละ 1,880 บาท  เพราะคิดว่าการแจ้งความไว้เฉยๆคงไม่มีความคืบหน้าแน่เพราะในเขตจังหวัดพิษณุโลก มีเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์แทบทุกวัน เมื่อทำป้ายมาติดหน้าร้านแล้วและได้ลงโพสไว้ที่ในเฟซบุ๊คของตนเองจนมีเพื่อนๆแชร์กันต่อมากมาย หลังจากนั้นก็ได้มี พ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา รองผบก.ภ.จว.พิษณุโลกเดินทางมาที่ร้านขอตนเองและสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลกติดตามคนร้ายมาโดยเร็ว และประสาของผ่อนผันกับบริษัทไฟแนนซ์ให้ด้วย

ทางด้าน พ.ต.อ.นฤชา  สุวรรณลาภา  รองผบก.ภ.จว.พิษณุโลก หลังจกทราบเรื่องราวดังกล่าวจากทางเฟซบุ๊ค จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเองและได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้านคาดว่าจะหลบหนี  พร้อมจะช่วยประสานกับทางบริษัทไฟแนนซ์ เพื่อผ่อนผันค่าชำระและรีไฟแนนซ์ให้ผู้เสียหายออกรถจักรยานยนต์คันใหม่มาเพื่อทำมาค้าขายได้อีก

ด้านนางอรพรรณ จาดยางโทน อายุ 29 ปี ภรรยาได้กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกโกรธสามีแต่อย่างใด เพราะตั้งแต่วันที่รถหายไปได้คุยกับสามีแล้วว่าจะทำอย่างไร ให้ได้รถคืนมา และที่ผ่านๆ มาเคยเห็นตามข่าวอยู่บ่อยๆที่ติดป้านประชดโจร จึงได้คิดว่าจะทำบ้าง เผื่อจะได้รถกลับคืนมา ตอนที่เอาข้อความไปให้ทางร้านทำป้าย ทางร้านด็หัวเราะและถามว่าทำจริงเหรอ ตนก็ยืนยัน จนได้ป้ายมาติดลูกค้า ประชาชนที่ผ่านไปมาก็แวะถามว่าเรื่องราวเป็นยังไง และก็ให้กำลังว่าขอให้ได้รถคืนโดยเร็ว ในส่วนของความคืบหน้าทางคดีในตอนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงพื้นติดตาม และขอเวลาเช็คกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เพื่อเร่งหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ไวที่สุดตนก็เบาใจมากขึ้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดูแลคดีอย่สงเต็มที่ และก็ยังหวังว่าจะได้รถคืน เพราะตนมีภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวจำนวนมาก ลูกก็ยังเรียนทั้ง 2 คน คงไม่มีเงินพอที่จะออกรถคันใหม่ ตอนนี้ก็ต้องยืมรถของญาตมาใช้ก่อนชั่วคราว เพราะต้องวิ่งซื้อของเข้าร้าน//

แสดงความคิดเห็น