ชีวิตสุดรันทดเป็นมะเร็งไม่พอแถมถูกจับข้อหามีโรงงานแปรรูปไม้

DSC_0831เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีหนุ่มใหญ่ป่วยเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกไม่สามารถทำงานช่วยเหลือครอบครัวได้ ตลอดทั้งยังถูกดำเนินคดีข้อหามีไม้ท่อนและแปรรูปไม้  ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนกระทำผิด จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 207 หมู่ 6 บ้านหนองไผ่ล้อม ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง สภาพเก่าทรุดโทรม พบ นายปานศิริ ทองอยู่เย็น อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน นั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน โดยสภาพร่างกายผอมซีดเซียว ที่บริเวณลำคอถูกเจาะเพื่อช่วยในการช่วยหายใจ และที่ช่องท้องต้องเจาะต่อสายยางเพื่อให้อาหารเหลว โดยมีนางสุรีรัตน์ ทองอยู่เย็น อายุ 44 ปี ภรรยา ดูแลอยู่ไม่ห่างDSC_0001

จากการสอบถามนางสุรีรัตน์ ทองอยู่เย็น ทราบว่า ก่อนหน้านี้สามีของตนเองทำงานรับจ้าง และมีร่างกายแข็งแรงปกติเหมือนคนทั่วไป จนกระทั่งเมื่อปลายปีที่แล้วสามีเริ่มมีอาการหายใจลำบากคล้ายโรคภูมิแพ้  จึงไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ซึ่งตรวจพบเจอมะเร็งที่หลังโพรงจมูก ทางแพทย์จึงได้ทำการช่วยเหลือเพื่อรักษา โดยการทำคีโมและทำการฉายแสงครบหมดแล้ว แต่ที่ต้องเจาะลำคอเพื่อช่วยในการช่วยหายใจ และเจาะช่องท้องเพื่อให้อาหารเหลว เพราะสามีไม่สามารถรับประทานอาหารได้เหมือนคนทั่วไป ทุกวันนี้สามีไม่สามารถออกไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้ ส่วนตนเองก็ต้องคอยดูแลสามีอย่างใกล้ชิด และต้องเลี้ยงดู ด.ช.ธีร์ธวัช ทองอยู่เย็น อายุ 1 ขวบ บุตรชาย ทำให้ไม่สามารถออกไปทำงานได้ ทุกวันนี้ต้องคอยอาศัยเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องนำข้าวปลาอาหารมาให้เพื่อประทังชีวิตDSC_0051 (Custom) นางสุรีรัตน์  กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่ารันทดกว่านั้น คือ สามีของตนเองต้องมาตกเป็นแพะรับบาป และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเลย เลขที่ จ.163/2256 ลงวันที่ 23สิงหาคม 2556 ในคดีตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้ท่อนไว้ในความครอบครองและมีไม้แปรรูปหวงห้าม มีเลื่อยโซ่ยนต์โดยไมได้รับอนุญาต และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก จับกุมตัวส่ง สภ.ท้องที่ จ.เลย และถูกฟ้องดำเนินคดีและฝากขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดเลยอยู่ 7 วัน ก่อนที่จะมีญาติมาประกันตัวเพื่อสู้คดี เพราะตนเองไม่เคยไปทำงานที่ จ.เลย และครอบครัวก็มีฐานะยากจนข้นแค้นขนาดนี้ สามีจะไปมีโรงงานแปรรูปไม้ได้อย่างไร ซึ่งตนเองได้ร้องขอให้ตรวจสอบความจริงอีกครั้ง โดยในวันที่ 26-27 พ.ย. นี้ ศาลที่ จ.เลย ได้นัดไปฟังคำตัดสินว่าสามีตนเองจะมีความผิดจริงหรือไม่ ซึ่งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือคดีดังกล่าวด้วยDSC_0835เบื้องต้นทางด้าน พระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ พร้อมคณะผู้ใจบุญ ได้นำสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค และเงินจำนวนหนึ่งไปช่วยเหลือครอบครัวของนายปานศิริ และนางสุรีรัตน์ เป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ซึ่งหากผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือสามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์หมายเลข083-1633881 หรือหมายเลขบัญชีธนาคาร ธกส.สาขาพิษณุโลก ชื่อบัญชีนางสุรีรัตน์ ทองอยู่เย็น บัญชีเลขที่ 01-027-8-026366

 

แสดงความคิดเห็น