วันนี้ (11 สิงหาคม 2557) ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก นายป๋อ วัชรวงศ์วรกุล ชาวเขาเผ่าม้งบ้านร่องกล้า รองประธานชมรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านร่องกล้า ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย พร้อมทีมงานในหมู่บ้านอีกจำนวนหนึ่ง ได้นำคณะช่างภาพจากมหาวิทยาลัยนเรศวร สำรวจเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ที่อาศัยในความเป็นชนเผ่าในท้องถิ่น และได้ฟังจากปากคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เล่าให้ฟังกันต่อๆมา ว่าในผืนป่าแห่งนี้มีสิ่งมหัศจรรย์อยู่ เช่นรอยเท้าพระบาทและสะพานหินคู่สะพานหินเดี่ยว และ สระน้ำกินรีที่ซ้อนอยู่ในใจกลางป่าใหญ่ เป็นสระน้ำที่ใสที่สุดไม่ผิดกับกระจกส่องหน้า
ซึ่งเส้นทางที่ชมรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านร่องกล้านำไปสำรวจครั้งนี้ คือ สระกินรี จะได้จัดเป็นเส้นทางท่องเที่ยวของหมู่บ้านเพื่อที่จะนำนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินป่าเข้าไปชมความมหัศจรรย์ ถึงแม้ว่าสถานที่ดังกล่าวจะอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า แต่ชุมชนในท้องถิ่นสามารถมีส่วนเข้ามาดูแลการท่องเที่ยวได้เช่นกัน ทีมสำรวจได้เดินทางเข้าไปสู่จุดหมายคือสระน้ำกินรี จุดเริ่มต้นนั่งรถไปตามถนนสายร่องกล้า—ภูทับเบิก บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 34 จากนั้นเราเริ่มเดินเท้าเข้าไปเป็นเส้นทางเดินเท้าเก่าๆสองข้างทางเป็นป่าดิบหนาทึบเป็นทางราบตามสันเขา ระยะทาง 1 กิโลเมตร ก็ถึงสระน้ำกินรี ใช้เวลาเดินเท้า 40 นาที สระน้ำจะอยู่ท่ามกลางหุบของป่าไม้ขนาดใหญ่ความกว้างประมาณหนึ่งไร่ ความลึก ยังไม่สามารถประมาณได้ ความใสของสระน้ำสามารถมองลงไปเห็นเงาไม้อย่างชัดเจน บริเวณรอบๆสระน้ำในป่าดิบมีความเงียบและเยือกเย็น มีเพียงเสียงนกไม่ทราบ บริเวณสันเขาสระน้ำกินรีอยู่ในความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,500 เมตร
นายมนัส สีเสือ ประชาสัมพันธ์ภูหินร่องกล้าได้กล่าวว่า ที่มาของชื่อสระน้ำกินรีนั้น เพราะมีความโดดเด่นอยู่ในกลางป่าลึกคล้ายกับว่าสระน้ำดังกล่าวอยู่ในเรื่องของนิทานที่คนแก่เล่าให้หลานฟังว่ามีนางกินรีเป็นสาวสวยที่มีปิกบินได้ 7 นางมาลงเล่นน้ำในสระกลางป่าแล้วถูกนายพรานข้องจับไปส่งให้พระเอก และน้ำใสมาก เป็นแหล่งรวมนกที่มีขนาดใหญ่ในป่านี้เป็นสระน้ำธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองชาวบ้านรุ่นก่อนในท้องถิ่น จึงเรียกว่าสระน้ำกินรี และจะได้รายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบและจัดการส่งเสริมท่องเที่ยวต่อไปต่อไป