วันที่ 30 กรกฏาคม 2557 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีเด็กหญิงวัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนบ้านแยง ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก มีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก ใช้ชีวิตอยู่กับน้อยชายชั้น ป.1 วัย 8 ขวบ เพียงลำพัง พ่อแม่ต้องออกไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ ปล่อยให้ทั้งคู่อาศัยอยู่บ้านพักที่ม.1 บ้านห้วยพลู ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลกตามลำพัง หนำซ้ำสภาพความเป็นอยู่ของสองพี่น้องก็เป็นที่น่าเวทนาและเป็นห่วงอย่างยิ่งสำคัญผู้มาพบเห็น โดยผู้ที่มาพบเห็นได้ถ่ายสภาพบ้านและบรรยายเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ที่น่าเป็นห่วงของเด็กทั้งสองผ่านเครือข่ายเฟซบุ๊คในสังคมออนไลน์ของจังหวัดพิษณุโลก
วันนี้ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับนายลือศักดิ์ สิทธิธูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแยง นางสาวสิวลี กอกวังใน ครูประชำชั้นม.1 โรงเรียนบ้านแยง รวมถึงผู้ใจบุญที่ทราบข่าวทางสังคมออนไลน์เพื่อหาทางช่วยเหลือ ประกอบด้วยพระครูสิทธิธรรมภิวัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ พล.ท.วีเชียร ไชยปกรณ์ อุปนายกสมาคมผู้เสียสละจังหวัดพิษณุโลก นายศุภศักดิ์ ท้าวศรีชัย ผู้จัดการธนาคารออมสินสาขาอำเภอนครไทย
โดยพบครอบครัวสองพี่น้องคือ เด็กหญิงสายบัว ดุงสูงเนิน อายุ 13 ปี หรือน้องบัว นร.ชั้นม. 1 รฃโรงเรียนบ้านแยง และดช.นันทยศ ทาสีดา หรือ น้องโก๊ะ วัย 8 ขวบ นร.ชั้นป.1 โรงเรียนบ้านแยง จากการตรวจสอบพบว่า สภาพบ้านพักของนักเรียนทั้งสองคนนั้น อยู่ในสภาพลำบากอย่างมาก บ้านตั้งอยู่ในซอยห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 1 กิโลเมตร หรือห่างจากโรงเรียนบ้านแยงประมาณ 2 กิโลเมตร สภาพถนนทางเข้าบ้านเป็นทางดิน และค่อนข้างลื่นในช่วงหน้าฝน ส่วนตัวบ้านนั้นก็อยู่ในสภาพเก่า ผุพัง เป็นบ้านพักชั้นเดียวยกสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร หลังคาสังกะสี ที่มีรอยรั่วจำนวนมาก ผนังบ้านก็แปะด้วยไม้ซี่เล็ก ๆ ส่วนพื้นบ้านนั้นปูด้วยแฝก ( ไม้ไผ่ที่สับและแผ่มาเป็นพื้นบ้าน ) ในบ้านเป็นทั้งที่นอน ห้องครัว ขณะที่ห้องส้วมที่เด็กทั้งสองใช้นั้นอยู่หลังบ้าน เป็นส้วมซึมที่ต่อท่อประปาเข้าไปใช้ แต่ก็น่าเวทนาอย่างมาก เนื่องจากผนังของส้วมคลุมด้วยซาแลนสีดำ ไม่มีที่ปิดประตูมิดชิดแต่อย่างใด
น้องสายบัว เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่กับน้องชายวัย 8 ขวบเพียงลำพัง มานานร่วม 6-7 ปีแล้ว ตั้งแต่ตนยังอยู่ชั้นป.1 โรงเรียนบ้านแยง ก่อนหน้านี้แม่ตนมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านแก่งกุลา ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และได้ย้ายบ้านมาอาศัยอยู่ในที่ดินของตาตนที่นี่ และจากนั้น พ่อแม่ของตน คือนางสายทอง ทาสีดา และนายคำรอด ทางสีดา ได้ออกไปทำงานรับจ้างทั่วไปที่กรุงเทพฯ โดยจะส่งเงินมาให้น้องสายบัว กับน้องชาย ไว้เป็นค่าใช้จ่ายเพียงเดือนละ 500 บาทเท่านั้น และพวกตนก็ใช้ชีวิตอยู่กันตามลำพัง ทำกับข้าวเอง คอยดูแลน้อง หน้าฝนลำบากมาก ฝนตกก็สาด และรั่วเข้ามา เวลานตกเย็นก็ต้องอาศัยอยู่ในทุ้ง เพราะยุงเยอะมาก เวลาไปโรงเรียนก็อาศัยได้รถจักรยานยนต์ของญาติขับไปโรงเรียน และได้กับข้าวที่ครูที่โรงเรียนแบ่งมาให้กินกับน้องตอนเย็น นาน ๆ ครั้งพอ่กับแม่ก็จะขึ้นมาหาครั้งหนึ่ง
นางสาวสิวลี กอกวังใน ครูประจำชั้นม.1 โรงเรียนบ้านแยงห้องของ น้องสายบัว เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่มาเยี่ยมบ้าน ตามโครงการเยี่ยมบ้านนักเรียนของ สพฐ. ทำให้ทราบปัญหา และมีความเป็นห่วงถึงความปลอดภัยของ น้องสายบัว ที่ต้องอาศัยอยู่เพียงลำพัง ไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแล เนื่องจากน้องสายบัวเริ่มโตเป็นสาว อีกทั้งฐานะก็ยากจน ก่อนหน้านี้ ทางคุณครูได้ช่วยเหลือ ด้วยการให้นำอาหารกลางวันของโรงเรียนที่เหลือในวันจันทร์ ถึงวันศุกร์ กลับมาไว้เป็นอาหารเย็น ซึ่งหลังจากนี้ก็จะประสานไปยังหน่วยงานต้นสังกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งหาแนวทางช่วยเหลือต่อไปและก่อนหน้านี้ทางผู้พบเห็นก็ได้มาถ่ายสภาพบ้านและบรรยายเรื่องสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องทั้งสอง ว่าอยู่อย่างยากลำบาก อยากให้มีผู้ใจบุญเข้าให้การช่วยเหลือ โดยโพสต์ภาพและข้อความผ่านสังคมออนไลน์ของชาวพิษณุโลก
นายลือศักดิ์ สิทธิธูรณ์ ผอ.โรงเรียนบ้านแยง เปิดเผยว่า หลังจากครูประจำชั้นได้ไปพบสภาพตนก็มาตรวจสอบ ก็พบว่าสภาพครอบครัวของเด็กทั้งสองลำบากอย่างมาก นอกจากสภาพที่อยู่อาศัยไม่มั่นคงแล้ว ทั้งสองยังต้องอยู่ตามลำพัง ผู้ปกครองจำเป็นต้องออกไปรับจ้างที่กรุงเทพฯ ตนจึงพบผู้ปกครองของเด็กทั้งสองทั้งพ่อและแม่ ได้ขอร้องให้คนใดคนหนึ่ง หยุดชีวิตแบบนี้ ให้กลับมาดูแลลูกด้วย ล่าสุด นางสาบยทอง ทาสีดา ผู้เป็นแม่ ที่เพิ่งเดินทางกลับมาช่วงเข้าพรรษาก็รับปาก จะไม่กลับไปทำงานรับจ้างทีก่รุงเทพฯแล้ว ปล่อยให้สามีไปทำงานคนเดียว นางสายทองจะหารับจ้างในหมู่บ้าน เพื่อจะได้อยู่อาศัยดูแลเด็กทั้งสอง
ผู้สื่อข่าว ได้พบกับนางสายทอง ทาสีดา ผู้เป็นแม่ของเด็กทั้งสอง ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ต่อแต่นี้ไปจะไม่ไปทำงานรับจ้างทีก่รุงเทพฯแล้ว ตนจะอยู่ที่บ้านดูแลลูก จะหางานรับจ้างทั่วไปในหมู่บ้าน ช่วงนี้ไม่มีใครจ้าง ก็จะออกหาปลามาขาย
ในวันนี้ ทางผู้ใจบุญทั้งสวัดราชบูรณะและอุปนายกสมาคมผู้เสียสละจังหวัดพิษณุโลก ได้นำเงินจำนวนหนึ่ง พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้เด็กทั้งสองคน ขณะที่ธนาคารออมสินสาขาอำเภอนครไทยได้มาสำรวจสภาพเบื้องต้น และเตรียมความช่วยเหลือทั้งเงินบริจาคและรถจักรยานให้เด็กทั้งสองคน สำหรับผู้ใจบุญท่านใดต้องการช่วยเหลือ เด็กหญิงสายบัว ดุงสูงเนิน สามารถ บริจาคเงินได้ที่บัญชีธนาคารออมสิน เลขที่ 02 0103 8693 09 ชื่อบัญชี เด็กหญิงสายบัว ดุงสูงเนิน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นายลืดศักดิ์ สิทธิธุรณ์ ผอ.โรงเรียนบ้านแยง โทร 089- 856 6625 นางสาวสิวลี กอกวังใน 095-6398557 หรือ ที่น้องสายบัว 082-1709539