เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 28 ก.ค.2557 ร.ต.ท.อภิชาติ พุ่มทอง รอง สวป.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มคนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะไล่ชนผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาวก่อนที่คนร้ายได้ได้พยายามฉุดขึ้นรถเพื่อพาไปปกระทำชำเรา โดยในจุดแรกได้รับแจ้งว่าคนร้ายจำนวน 3 คนขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม๊ค สีฟ้า ทะเบียน บบ-2800 เพชรบุรี ไล่ชนผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาว เหตุเกิดที่บริเวณหน้าโรงแรมวิจิตรา ถนนสิงห์วัฒน์ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามและได้รับแจ้งอีกว่าได้มีคนร้ายคาดว่าเป็นเกลุ่มเดียวกันได้ขับรถชนหญิงสาวจำนวน 2 รายและลงมาทำร้ายร่างกายพยายามที่จะฉุดขึ้นรถยนต์เหตุเกิดหน้าร้านอาหารไทยฟอร์ยู ทางเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนี
เวลาห่างกันไม่นานนักเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งนายเมธี ศรีหร่าย อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 847 ถนนบรมไตรโลกนาถ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ว่าขณะที่ตนเองขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อเวฟไอสีขาว ทะเบียน ขตร-287 พิษณุโลก มาพร้อมกับแฟนสาวคือน.ส.สาว (นามสมมุติ)อายุ 22 ปี นั่งซ้อนท้ายมาด้วยเมื่อมาถึงบริเวณหน้าร้านอาหารครัวเมืองน่าน ถนนไชยานุภาพ ได้มีคนร้ายขับรถยนต์กระบะมาเฉี่ยวชนจนรถจักรยายนต์ของตนเองเสียหลักล้มลมก่อนที่คนร้ายจะเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 3 คนได้กรูลงเข้ามาทำร้ายตนเอง จากนั้นคนร้ายได้ฉุดแฟนสาวของตนเองขึ้นรถยนต์กระบะหลบหนีไปทางถนนสีหราชเดโชชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับคนร้าย จนมาถึงซอยทางเข้าวัดหลวงพ่อโต หมู่ 7 ต.วัดจันทร์ พบรถยนต์ของคนร้ายพุ่งตกลงข้างทาง ผู้เสียหายได้อาศัยจังหวะดังกล่าววิ่งหลบหนีออกมาจากรถคันดังกล่าวและมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน
ตรวจสอบภายในรถยนต์พบท่อนไม้จำนวน 2 ท่อน เชือกไนล่อนอีก 1 เส้น นอกจากนี้ยังพบกางเกงชั้นในของผู้เสียหายตกอยู่ภายในรถอีกด้วย ส่วนคนร้ายทั้งสามคนได้ตกใจวิ่งหลบหนีคนละทิศละทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังปิดล้อมในที่เกิดเหตุจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสามราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายณัฐพล แก้วแดง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 246/4 ถนนสีหราชเดโชชัย อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายกรชนก ฝากฝัง อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147/1 หมู่ 12 ต.แม่ท้อ อ.เมือง จ.ตาก และนายหนึ่ง(นามสมมุติ)อายุ 17 ปี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นที่ห้องพักของนายณัฐพล พบอาวุธปืนพกสิ้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนขนาด 20 จำนวน 6 นัด ก่อนจะควบคุมตัวทั้งสามคนมาสอบสวนที่สภ.เมืองพิษณุโลก
ในเบื้องต้นทั้งผู้ต้องหาทั้งสามคนให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อนเหตุดังกล่าวจริงก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มสุรากันหมดไป 3 คน จำนวน 3 ขวด ก่อนที่นายณัฐพล จะขับรถยนต์ออกมาส่งรุ่นน้องที่บ้านพัก จนกระทั่งมาถึงหน้าโรงแรมวิจิตรา พบผู้เสียหายเป็นชายหญิง ขับรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน ด้วนความเมาและคึกคะนองจึงได้ขัยรถชนท้ายก่อนที่จะลงไปทำร้ายร่างกายฝ่ายชายและพยายามฉุดผู้หญิงขึ้นรถแต่มีคนผ่านมาจึงได้รีบขึ้นรถยนต์หลบหนี จนกระทั่งมาพบเหยื่อรายที่สองเป็นผู้หญิงสองคน ที่บริเวณหน้าร้านอาหารไทยฟอร์ยู จึงได้ก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง ด้วยการทำร้ายและพยายามลวนลาม แต่ก็ไม่สำเร็จจนกระทั่งมาถึงรายสุดท้ายได้ขับรถชนท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายและลงไปทำร้ายร่างกายฝ่ายชายและฉุดหญิงสาวขึ้นรถ และพยายามที่จะข่มขืน จนกระทั่งรถยนต์เกิดเสียหลักตกลงข้างทางผู้เสียหายได้วิ่งหลบหนี จนกระทั่งตนเองมาจับกุมในที่สุด
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหาหน่วงเหนียวกักขัง และทำร้ายร่างกาย ส่วนคดีกระทำชำเรานั้น ต้องรอแพทย์ลงความเห็นอีกครั้ง โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนได้ให้ผู้เสียหายมาทำการชี้ตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมด ยังรวมเป็นแก๊งรถยนต์ชื่อ แก๊งดูแล็ค