เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 57 ที่วัดท่า มะปราง อ.เมืองพิษณุโลก ได้มีการขนสังฆทานที่พระสงฆ์และสามเณรได้รับถวายจากประชาชนทั่วไป ซึ่งส่วนมากจะเป็นสังฆทานลักษณะเป็นกระถังสีเหลือง และห่อกระดาษสีทองใสที่นิยมกันทั่วไป โดยส่วนมากสังฆทานแต่ละอย่างมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก หากดูจากภายนอกด้วยตาเปล่าจะสมราคา เพราะดูเหมือนจะมีจำนวนเต็มตามที่ทางร้านจัดเป็นแพ็ค หรือทำหีบห่อเอาไว้ แต่หลังจากมีการแกะหีบห่อสังฆทานออกมาแล้ว ปรากฏว่าสินค้าที่นำมาบรรจุเอาไว้ในกระถัง หรือทำหีบห่อขายนั้นได้หมดอายุไปแล้ว แต่เป็นสินค้าที่ใช้ไม่ได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว และสินค้าบางอย่างก็หมดอายุ ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่สำเร็จรูปมีกลิ่นเหม็น สินค้าที่อยู่ในกล่องมีเพียงชิ้นเดียว นอกนั้นเป็นกล่องเปล่า ส่วนผ้าอาบน้ำฝนทั้งบางและสั้น สำหรับผ้าอังสะที่อยู่ในถุงก็เป็นเพียงผ้าผืนเล็กๆสี่เหลี่ยมเท่านั้น แม้แต่ขวดน้ำที่ถูกยัดใส่เอาไว้ใต้กระถังให้มีน้ำหนักก็มีกลิ่นเหม็นจากผงซักฟอกที่ใส่รวมกันเอาไว้ จากการตรวจสอบสินค้าทั้งหมดแถบไม่มีอะไรนำมาใช้ได้เลย
พระธรรมธรอุดมศักดิ์ อุตมสักโก รักษาการเจ้าอาวาสวัดท่ามะปราง กล่าวว่า สังฆทานทั้งหมดได้รับถวายมาจากญาติโยมในช่วงเข้าพรรษา ซึ่งมีจำนวนมากเป็นแบบกระถังสีเหลือง และแบบกระใสสีทอง แต่สินค้าที่บรรจุเอาไว้เป็นสินค้าที่ไร้คุณภาพ ไม่สามารถนำมาใช้ได้เลย เพราะไม่มีคุณภาพ ทางวัดจึงต้องให้โละแกะสินค้าทั้งหมด เพื่อตรวจสอบว่ามีอะไรพอจะนำมาใช้ได้ ดูแล้วมีเพียงร่ม กระติกน้ำ และกล่องสบู่ ซึ่งพอจะเก็บเอาไว้ได้ ส่วนสินค้าอย่างอื่นต้องทิ้งเป็นขยะ เพราะเก็บเอาไว้ไม่มีประโยชน์ บางครั้งพระได้รับถวายมาเคยเจอหนูวิ่งออกมาจากสังฆทานอีกด้วย ส่วนคนทำบุญอาจจะได้บุญบ้าง แต่คงไม่มาก ซึ่งอยากจะแนะนำญาติโยมนำสิ่งดีๆมาถวายพระ เพราะจะได้บุญเต็มๆ