วันนี้ 4 กรกฏาคม 2557 พ.อ.โอฬาร หาญสุรภานนท์ รอง ผอ.กอ.รมน.พิษณุโลก นายธนัช เนมีย์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก นายอำเภอวังทองและตำรวจสภ.วังทองพร้อมจนท.ป่าไม้แต่ละหน่วยป้องกันและรักษาป่าสนธิกำลังที่ จำนวนกว่า 100 นาย ที่อบต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โดยมีเป้าหมายตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวาบริเวณเขาเรดาห์บ้านบ่อ ม. 3 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
จากการตรวจสอบเอกสารและการบันทึกพื้นที่บุกรุกป่าของจนท.,ป่าไม้ เบื้องต้นพบว่า มีพื้นที่จำนวนทั้งหมด 931-3-81 ไร่ถูกบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวาบริเวณยอดเขาคลองห้วยไคร้ (เขาเรดาร์) จนท.ป่าไม้เข้าดำเนินการและจับกุมแล้ว แต่บางแปลงยังไม่มีความคืบหน้า โดยทุกแปลงมีชื่อระบุตามแปลงเลขที่ 1 – 20 เริ่มจากคดีการจับกุม เลขที่คดี 18/50 คดีเลขที่ .28/50 คดีเลขที่ 99/51 จนถึงคดีเลขที่ล่าสุด 128/56 โดยให้หัวหน้าหน่วยแต่ละหน่วยเป็นผู้ทำหน้าที่เช็คพิกัด ตรวจสอบสถานะพื้นที่ล่าสุด เนื่องจากทั้ง 20 แปลงหรือคดีนั้น บางคดี ได้ดำเนินการถึงที่สุดแล้ว, ยื่นฟ้องอยู่ในชั้นอัยการ, งดการสอบสวน, ของทราบผลคดี สั่งไม่ฟ้อง
ต่อมาคณะของ รอง ผอ.กอ.รมน.พิษณุโลก, ป่าไม้และสปก.พิษณุโลก เดินทางไปดูพื้นที่แปลงพื้นฟูสภาพป่า ตามยุทธการขอพื้นที่ป่าไม้คืนจำนวน 200 ไร่ บ้านบ้านบ่อหมู่ 3 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง พิษณุโลก ที่ทำการตรวจยึดเมื่อปี 2551 และทำการฟื้นฟูสภาพผืนป่าเมื่อปี 2555 โดยวันนี้ จนท.ได้ร่วมกันตัดต้นยางพาราและถางป่าให้อยู่สภาพสมบูรณ์
จากนั้นทั้งคณะเดินทางต่อไปยังบ้านหรู บริเวณยอดเขาเรดาห์ ซึ่งเป็นบ้านหลังที่โดดเด่นมาก มองจากถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก บริเวณต.วังนกแอ่นขึ้นมา จะเห็นเสาเรดาห์ สถานีทวนสัญญาณของทศท. และกลุ่มบ้านเหล่านี้อยู่โดดเด่น ซึ่งมี นางสมบัติ บุกิ่ง ชาวบ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 3 ต.วังนกแอ่น อ วังทอง พิษณุโลก เป็นเจ้าของ โดยที่ พ.อ.โอฬาร บอกกับเจ้าของบ้านทันทีว่า บ้านที่อยู่นั้นผิดกฎหมายอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทำให้นางสมบัติ พูดไม่ออก บอกแต่เพียงว่า ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเนื่องจากเป็นของสามีที่เลิกกันไปแล้ว ไม่มีอาชีพใดๆ หากยึด ก็ไม่มีที่อยู่อาศัย หากไล่ไปก็ขอที่อยู่แห่งใหม่ 
พ.อ.โอฬาร หาญสุรภานนท์ รอง ผอ.กอ.รมน.พิษณุโลก เปิดกับผู้สื่อข่าวอีกว่า สร้างบ้านหรูตั้งอยู่บนเขาเรดาห์หลังนี้ ผิดกฎหมาย อยู่นอกเขตสปก. อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯ จะต้องยืดคืนเพื่อให้เป็นตัวอย่าง โดยใช้วิธีพยายามเจรจาต่อรอง ให้นางสมบัติ บุกิ่ง ออกจากพื้นที่ แต่ไม่มีการจับกุม จะต้องขอคืนพื้นที่ด้วยการเซ็นยินยอมให้ออกจากป่าสงวน คาดว่า ไม่เกิน 1 สัปดาห์น่าจะรู้ผล รับรองไม่เกิน 3 เดือนแน่ หลังจากนี้อาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือ อบต.นำพื้นทึ่ใช้เป็นประโยชน์ส่วนร่วม สถานที่พักผ่อน ถือว่า เป็นสมบัตสาธารณะประโยชน์สามารถใช้ร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีบ้านหรูลักษณะเดียวกันกับนางสมบัติประมาณ 3-4 แห่ง อยู่ใกล้กัน ก็จะต้องใช้วิธีเจรจาขอคืนพื้นที่ 
พ.อ.โอฬาร ต่อว่า ได้ประชุมกับป่าไม้แล้ว จากนี้ไปจะใช้ระยะเวลา 3 เดือน ในการสำรวจพื้นที่บุกรุกป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ในพื้นที่จ.พิษณุโลก ผู้ที่ครอบครองพื้นที่ป่าโดยมิชอบ เราจะขอคืนพื้นที่ทั้งหมด ขณะนี้มอบหมายให้จนท.ป่าไม้ สำรวจพื้นที่ป่าสงวนป่าอนุรักษ์ทุกแปลง หากพื้นที่ใดมีนายทุนบุกรุกป่าสงวน ครอบครองโดยมิชอบ ที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ จะดำเนินการขอคืนพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปี 51 ครั้งที่ นายสมบูรณ์ ศรีพัฒนาวัฒน์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้นำคณะนายอำเภอวังทอง, ตำรวจ, ปกครอง, ป่าไม้ นำกำลังขึ้นไปบนเขานับ 100 นายเหมือนกับครั้งนี้ เพื่อตรวจสอบพื้นที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวาบริเวณยอดเขาคลองห้วยไคร้ (เขาเรดาร์)และบ้านสร้างหรูอยู่บนเขา หมู่ที่ 3 บ้านบ่อ ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลกเช่นกัน( เมื่อ 20 พ.ค.51 )
ครั้งนั้นผู้ว่าฯ สำรวจพิกัดแล้วพบพื้นที่บุกรุก 621 ไร่ ระบุว่าจะดำเนินการ กรณีบ้านพักหรู สั่งการให้ป่าไม้ตรวจสอบว่าเป็นบ้านพักของใคร จะต้องเชิญเจ้าของบ้าน นำหลักฐานการถือครอบครองที่ดินมาชี้แจง หากผิดกฎหมาย จะต้องดำเนินคดีทันที พบว่า พื้นที่ 6 แปลงตั้งอยู่บนยอดเขาคลองห้วยไคร้สร้างบ้านพัก 7 หลัง ส่วนพื้นที่บุกรุกมีทั้งสิ้น 621 ไร่เป็นสวนยางพาราเป็นส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา