เมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 4 ก.ค. 57 นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานปิดศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรคมะเร็ง พร้อมทั้งมีการแถลงข่าว “หกร้อยดวงใจ เทิดไท้องค์กุมารี” โครงการผ่าตัดหัวใจ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุ 60 พรรษา ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก โดยมีนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตบริการสุขภาพที่ 2 นายวัฒนะ กันนะพันธุ์ รอง ผู้ว่าราชการ จ.พิษณุโลก บุญเติม ตันสุรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.พิษณุโลก และนายแพทย์ศิวฤทธิ์ รัศมีจันทร์ ผอ.โรงพยาบาลพุทธชินราช ร่วมให้การต้อนรับ โดยมีทั้งแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ร่วมพิธีจำนวนมาก
ทั้งนี้เขตบริการสุขภาพที่ 2 มี จ.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ตาก เพชรบูรณ์ และสุโขทัย ยังไม่มีศูนย์รักษาโรคมะเร็ง โรงพยาบาลพุทธชินาราช ซึ่งเป็นศูนย์ในเขตภาคเหนือตอนล่าง ได้รับให้จัดตั้งหน่วยรังสีรักษา ได้รับการสนับสนุนจัดหาเครื่องฉายรังสีโคบอลต์ 60 และเครื่องจำลองกระจายรังสี และได้รับจัดตั้งศูนย์ความเชี่ยวชาญ สาขามะเร็ง ระดับ 1 สามารถให้บริการรักษาโรคมะเร็งแบบครบวงจร โดยเพิ่มเครื่องเร่งอนุภาค เครื่องฉายรังสีระยะใกล้ เครื่องจำลองการรักษาแบบ 3 มิติ คาดว่าจะสามารถให้บริการผู้ป่วยไม่น้อยกว่า 1,500 รายต่อปี หรือบริการฉายรังรังสีผู้ป่วยมากกว่า 75,000 ครั้งต่อปี จากเดิม 32,000 ครั้งต่อปี
นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณะสุข กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยเป็นอันดับ 1 ติดต่อกันมากว่า 10 ปี จากข้อมูลปี 2555ทั่วประเทศมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งรวม 62,272 ราย เพิ่มจากปี 2548 ถึงร้อยละ 20 กว่าครึ่งเป็นชาย โดยในปี 2556-2560 ได้พัฒนาระบบบริการแบ่งออกเป็นเขตบริการสุขภาพทั้งหมด 12 เขตภูมิภาค ในการดูแลประชาชนให้มีสัดส่วนเท่าๆกันประมาณ 5 ล้านคน รวมเขตละ 5-7 จังหวัด และอีก 1 เขต กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เข้าถึงในการรับบริการของประชาชน
ปลัดกระทรวงสาธารณะสุข กล่าวอีกว่า สำหรับเขตบริการสุขภาพที่ 2 ประกอบด้วย 5 จังหวัด มี จ.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ตาก เพชรบูรณ์ และสุโขทัย โดยยกระดับโรงพยาบาลพุทธชินราช ซึ่งเปิดบริการรักษาโรคมะเร้งมาตั้งแต่ปี 2553 ให้เป็นศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรคมะเร็งทุกชนิดแบบครบวงจร มาตรฐานสากล ได้จัดงบประมาณ 120 ล้านบาท ในการจัดซื้ออุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งทีเพิ่มขึ้นทุกวันนายแพทย์ศิวฤทธิ์ รัศมีจันทร์ ผอ.โรงพยาบาลพุทธชินราช กล่าวว่า ในเขตบริการสุขภาพที่ 2 พบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ปีละ 5,000-7,000 ราย อันดับ 1 คือมะเร็งเต้านม รองลงมาคือมะเร้งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งปอด ที่ผ่านมาโรงพยาบาลสามารถทำการรักษาผู้ป่วยได้ร้อยละ 70 ส่วนอีกร้อยละ 30 ส่งต่อไปรักษาต่างจังหวัดและที่กรุงเทพ ทำให้มีผู้ป่วยรอคิวรักษา 3-6 เดือน หลังโรงพยาบาลพุทธชินราชเปิดเป็นศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรคมะเร็ง ผู้ป่วยทุกรายจะได้รับการรักษาภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์ โดยให้บริการวันละ 16 ชั่วโมง และยังสามารถรองรับพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง อาทิ ชัยนาท กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตรและอุทัยธานี เพิ่มขึ้นอีกด้วย