โอละพ่อคดีพลิกอดีตนักมวยฆ่าเพื่อนทิ้งคลองชลประทาน

DSC_0438จากกรณีพบศพชายหนุ่มนิรนาม จมน้ำเสียชีวิตในคลองชลประทาน บริเวณม.5 ต.จอมทอง อ.เมืองพิษณุโลก โดยมีผู้มาพบศพเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา ในสภาพคว่ำหน้าจมน้ำในคลองชลประทาน ใบหน้ามีรอยช้ำ กรามหัก จากของแข็ง วันเดียวกันใน ช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก หลังเข้าไปดูสถานที่เกิดเหตุแล้วใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงติดตามไปจับกุมตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุไว้ได้ทราบชื่อต่อมาคือ นายปิยะ  ปรีชารส อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 228 หมู่ 3 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก อดีตนักมวยชื่อดังของท้องถิ่น โดยมีฉายาว่า ธนูเดช ศิษย์เจ้าพ่อขุนแก้ว ขณะพักอาศัยอยู่ในบ้านพักตัวเอง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นDSC_0446เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 3 ก.ค. 57 พ.ต.อ.เชิดพงศ์ พัวศรี พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ และร.ต.อ.นพดล  ไม้งาม พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ได้ควบคุมตัวนายปิยะ ปรีชารส ได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณคลองชลประทานที่พบศพ  หลังเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ได้ให้นายปิยะ ชี้ตั้งแต่เดินออกมาจากบ้านพักมาถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร  โดยอ้างว่าได้เดินทางมากับผู้ตายเพียง 2 คน เท่านั้น  จากนั้นได้นั่งพูดกันเล็กน้อยก่อนที่นายปิยะจะลุกขึ้นเตะผู้ตาย 3 ครั้ง จนผู้ตายเสียหลัก และลงมือทั้งชกต่อยเตะซ้ำอีก ก่อนจะถีบผู้ตายตกไปในคลอง  ซึ่งนายปิยะอ้างอีกว่า หลังจากผู้ตายตกไปในคลองชลประทาน ได้ตามไปลากตัวขึ้นมาทำร้ายร่างกายซ้ำอีก ก่อนจะถีบตกลงไปในคลองอีกครั้ง จากนั้นได้เดินกลับไปบ้าน กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมตัวที่บ้านDSC_0447ทั้งนี้ระหว่างทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากคำให้การกับการกระทำแตกต่างกัน ตลอดทั้งนายปิยะพูดไม่ตรงกับคำให้การในตอนแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พยายามสอบถามความจริง  เพราะมีพิรุธปิดบังข้อมูลรายละเอียด ตลอดทั้งการตรวจร่างกายนายปิยะ ไม่พบร่องรอยบาดเจ็บหรือเขียวช้ำจากการชกต่อยหรือเตะผู้ตาย ซึ่งเป็นข้อสงสัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมากเพราะหากชกต่อยผู้ตายถึงกรามและฟันหักผู้ต้องหาต้องมีร่องรอยบาดเจ็บบ้าง แต่ไม่มีรอยร่องอะไรเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นายปิยะยกขาแสดงท่าเตะ ปรากฏว่ายกขาไม่ค่อยขึ้น เพราะไม่มีแรง ซึ่งไม่สมเหตุสมผล  และนายปิยะก็ตัวเล็กแรงน้อย ซึ่งทั้งตอนก่อเหตุยังเมาเหล้าหนักอีก คงยากที่จะเตะหรือต่อยจนกรามหัก  เจ้าหน้าที่จึงพยายามสอบถามความจริงDSC_0449ระหว่างนั้นมีชาวบ้านที่มาดูการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ และเป็นพยานเข้ามาบอกให้นายปิยะพูดความจริงจะมารับผิดคนเดียวทำไม ว่าคืนเกิดเหตุออกมากับใคร เพราะมีคนเห็นว่านายปิยะพาผู้ตายนั่งรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ  โดยมีเพื่อนอีกคนมาด้วย ซึ่งตรงกับคำให้การพยานที่นอนเฝ้าคอกวัวตรงข้ามที่เห็นมีจักรยานยนต์มาจอด และมีจำนวน 3 คน และตอนเจ้าหน้าที่พบศพวันแรกผู้ต้องสงสัยรายนี้ยังมาดูการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเช่นกันDSC_0450หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสอบสวนเค้นหาความจริงอยู่นาน นายปิยะ จึงเปิดปากพูดความจริงทั้งหมด ว่าคืนวันเกิดเหตุตนได้ซื้อเหล้า 40 มาจากร้าน สี่แยกบ้านกร่าง และนั่งกินอยู่ใต้ถุนบ้านเพียงคน ระหว่างนั้นนายเหมียวได้ขี่รถจักรยานยนต์มาหาที่บ้าน และนั่งดื่มเหล้าด้วยกัน ต่อมาไม่นานผู้ตายได้มานั่งดื่มร่วมกับตนอีกคน  ช่วงที่เหล้าใกล้จะหมดขวดนายเหมียวได้ให้ตนออกไปซื้อมาอีก 1 ขวด หลังกลับมาก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ ว่าผู้ตายกับนายเหมียวมีปากเสียงกัน กระทั่งเวลาผ่านไปนายเหมียวได้ชักชวนตนออกไปหาเหล้ากินต่อ โดยเอาผู้ตายไปด้วย ซึ่งตอนนี้มีคนเห็นว่าทั้งสองคนช่วยกันอุ้มผู้ตายนั่งซ้อนท้ายไปด้วยDSC_0455หลังจากขี่รถจักรยานยนต์มาถึงคลองชลประทาน ได้พากันลงจากรถ  จากนั้นนายเหมียวได้เตะชกต่อยผู้ตายจนล้มทั้งยืน ก่อนจะซ้ำจนไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ จากนั้นนายเหมียวได้ถีบผู้ตายตกลงไปในคลอง  ส่วนตนนั่งอยู่บนถนนดูเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ร่วมมือทำร้ายร่างกาย  จากนั้นนายเหมียวได้ลงไปลากตัวผู้ตายขึ้นมาทำเตะช้ำซ้ำและใช้ปืนบีบีกันทุบตีที่บริเวณใบหน้าจนปากฉีกฟันและกรามหัก ตนจึงลุกขึ้นถีบผู้ตายลงน้ำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ก่อนจะพากันขี่รถกลับบ้าน และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมดังกล่าว  ก่อนจะควบคุมตัวไปทำแผนที่ใต้ถุนบ้านที่นั่งดื่มเหล้ากัน  ซึ่งยังมีขวดเหล้าและกับแกล้มวางอยู่เหมือนเดิม ส่วนชนวนสาเหตุทราบว่า มีการแย่งจีบสาวคนหนึ่ง  ทำให้เกิดความขัดแย้งอยู่ในใจ กระทั่งร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวคนฆ่ารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายDSC_0459

 

แสดงความคิดเห็น