นายสำรวย ชุมบุญหัวหน้าสายตรวจปราบปราบการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ สายที่ 1พร้อมจนท.ชุดปฎิบัติการพิเศษ กองพลทหารราบที่ 4, กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ร่วมกันออกตรวจ ตามคำสั่ง คสช.64/57กระทั่งได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีผู้ลักลอบตัดต้นไม้สักออกจากป่าบ้านหินลาด ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และนำมาซุกซ่อนไว้บริเวณริมถนนสายดอนทอง – บ้านน้ำดำ ช่วงหลัก กม ที่ 3 หมู่ 2 ต.ดอนทองอ.เมือง พิษณุโลกจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตามที่ได้รับแจ้ง
พบว่าบริเวณสระน้ำแห่งหนึ่ง ริมถนนบ้านดอนทอง พบไม้ท่อนลอยอยู่ในสระน้ำ 2ท่อน ต่อมา จนท.ได้ลงไปในสระน้ำ เพื่องมไม้ที่คาดว่า ยังอยู่ใต้สระปรากฏว่า พบไม้สักอีก 8 ท่อน รวมเป็น 10 ท่อน ลักษณะไม้ ใหม่และสดน่าจะตัดออกมาจากป่าสงวนไม่เกิน 1 สัปดาห์ไม่พบร่องรอยดวงตราจนท.ป่าไม้ตีประทับ ขณะที่สอบก็ไม่พบว่าบุคคลใดให้การเป็นเจ้าของ
สอบถามกำนันต.ดอนทอง นายสุเขต สุดประเสริฐ ทราบว่าเป็นที่ดินของนางภา ตาลช่วย ราษฎรบ้านเลขที่ 104//1 หมู่ 2 ต.บ้านดอนทองอ.เมือง พิษณุโลก แต่ไม่พบเจ้าของที่ดินดังกล่าวสันนิฐานว่า ตัดไม้มาจากป่าสงวนฯ แต่เกรงกลัว ความผิด ต่อประกาศ คสช.ไม่กล้าแปรรูปหรือเคลื่อนย้ายเข้าเมือง นำมาซุกซ่อนอำพรางไว้ใต้สระน้ำทำให้จนท.ป่าไม้ ยึดไม้สักท่อนทั้งหมด 10 ท่อน คำนวณปริมาตร 1.52ลูกบาศก์เมตร และมอบให้นายสมชาย มูลมติเชาว์หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ พล.10 (น้ำดำ)ทำบันทึกส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลกเพื่อหาผู้กระทำผิดต่อไป ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ฐานทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา69 มีไม้หวงห้ามยังมิได้แปรรูป ไว้ในครอบครอง และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14ฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต