เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 มิ.ย. พ.ต.ท.ศตพล เอี่ยมโซ้ สว.ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล พร้อมด้วย พ.ต.ท.วรทัพน์ พิษณุรักษา สวป.สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก ขณะร่วมกันออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ บนถนนทางหลวงหมายเลข 11 เส้นวังทอง-สากเหล็ก หมู่ 2 บ้านซำเตย ต.ดินทอง อ.วังทอง พบพระภิกษุจำนวน 3 รูป หน้าทางเข้าวัดซำเตย กำลังยืนรอโบกรถญาติโยมที่ขับขี่ผ่านไปมาบนถนนเส้นดังกล่าว แต่ไม่มีผู้ใดจอดรับ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขับมาได้แสดงท่าทีมีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่จึงได้หยุดรถและแสดงตนเข้าขอตรวจค้น พร้อมกับได้ให้พระทั้งหมด ตั้งนะโม 3 จบ และท่องบทสวดมนตร์ศีล 5 ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่พระทั้ง 3 รูป ก็ท่องไม่ได้ ท่องผิดๆ ถูกๆ และมีกลิ่นสุราคละคลุ้ง อีกทั้งเจ้าหน้าที่ก็ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า ได้มีพระภิกษุออกเดินเรี่ยไรตามหมู่บ้าน และย่านชุมชนอยู่เป็นประจำ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดรถสายตรวจทางหลวงออกตรวจตามเส้นทางหลวงสายต่างๆ และเมื่อพบพระทั้ง 3 รูป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจค้นเพราะเกรงว่าจะเป็นพระปลอม และเมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบก็พบว่า พระทั้ง 3 รูป ไม่มีใบสุทธิของพระมายืนยัน และไม่มีหลักฐานการแสดงตนว่าเป็นพระภิกษุบวชจากที่ใด โดยไม่มีหนังสือรับรองจากพระอุปัชฌาย์ และมีพฤติกรรมคล้ายคนเมา ให้การวกไปวนมา พูดจาไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวพระทั้ง 3 มาทำการสอบสวนยังป้อมจุดตรวจ สภ.อ.วังทอง พร้อมกับจับตรวจปัสสาวะ โดยพระทั้ง 3 ยังมีการใช้อุบายนำน้ำเปล่ามาให้เจ้าหน้าที่ตรวจ โดยอ้างว่าเป็นปัสสาวะ ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงต้องควบคุมตัว พร้อมพาเข้าห้องน้ำบังคับให้ปัสสาวะ และนำปัสสาวะมาตรวจหาสารเสพติดอย่างละเอียด โดยพบฉี่สีม่วงจำนวน 2 รูป จึงควบคุมตัวส่งให้กับ ร.ต.อ.บุญสิงห์ สุทธิ พนักงานสอบสวน สภ.วังทอง ทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ สภ.วังทอง
จากการสอบสวนในเบื้องต้น พระทั้ง 3 รูป ให้การรับสารภาพว่าเป็นพระปลอม โดยไม่ได้ผ่านการบวชมาแต่อย่างใด และทราบชื่อพระทั้ง 3 รูป ต่อมาคือ นายอำนวย กุลกิจ อายุ 60ปี อยู่บ้านเลขที่ 193 หมู่ 11 ต.แม่เปิ่น อ.แม่เปิ่น จ.นครสวรรค์ นายคึกฤทธิ์ ผาตอพงษ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 11 ต.แม่เปิ่น อ.แม่เปิ่น จ.นครสวรรค์ และ นายขจร จำปาขาว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 16 ต.แม่เปิ่น อ.แม่เปิ่น จ.นครสวรรค์ โดยอ้างว่าตกงานไม่มีงานทำ เลยหันมาห่มผ้าเหลือง และออกเดินธุดงค์ไปยังที่ต่างๆ ในเขตจังหวัดภาคเหนือ ซึ่งการออกเดินธุดงค์ ก็จะหาชุมชนที่มีชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธา ปักกลด พร้อมกับดูหมอดูและเรียกเงินค่าครูพร้อมกับออกเดินเรี่ยไรตามบ้าน ซึ่งสร้างรายได้เป็นอย่างดี โดยมีเงินหมุนเวียนส่งให้กับทางบ้านเดือนละกว่า หมื่นบาท และมีรายได้ต่อวัน ตั้งแต่ 3-5 พันบาท ส่วนฉี่ม่วงนั้น พระคึกฤทธิ์ และ พระขจร พบเป็นสีม่วง โดยทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่าเสพยามาจริง โดยหาซื้อจากเด็กวัยรุ่นในหมู่บ้าน ที่ไปปักกลดอยู่ และก่อนถูกจับก็เพิ่งเสพมาโดยเดินทางมาจาก จ. แพร่ กำลังจะเดินทางไปจังหวัดพิจิตร เพื่อปักกลด แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี โดยพระขจร และ พระคึกฤทธิ์ ที่ตรวจพบฉี่สีม่วงถูกดำเนินคดี 2 ข้อหา ข้อหาแรกคือ เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ( เมทแอมเฟตามีน ) ข้อหาที่ 2 คือ แต่งกายเลียนแบบภิกษุสงฆ์ หรือนักบวชในศาสนา โดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งหมดไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.