ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 10 มิถุนายน 57 นายสำรวย ชมบุญ หัวหน้าสายตรวจสายที่1สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลกสนธิกำลังหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ 3 (หนองกระท้าว) พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ทำการ ชักลากไม้ชิงชันลงมาจากยอดเขา หลังจากวานนี้ จนท.ป่าไม้ขึ้นบินตรวจสภาพป่า ด้วยเครื่องบิน กระทรวงทรัพย์(สีแดง) ซึ่งถือเป็นแผนบินปกติในการตรวจสภาพป่า ประจำเดือน มิ.ย.2557 แต่หลายครั้ง มอดไม้ รู้ตัว กระทั่งล่าสุด สายตรวจฯกรมป่าไม้ขึ้นบินพบ ไม้ล้มพร้อมกับเห็นไม้ท่อนถูกแปรรูปเป็นแผ่นๆ จึงส่งสัญญาณให้นำกำลังจนท.ป่าไม้ภาคพื้นดิน(หน่วยฯหนองกะท้าว)เข้าตรวจยึดบริเวณหลังวัดบ้านน้ำเลา หมู่2 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก พบว่า เป็นไม้ชิงชันล้วนๆจำนวน 33แผ่น และไม้ท่อน (ไม้ชิงชัน)จำนวน 4 ท่อนขนาดใหญ่ความยาวประมาณ 15-20 เมตรล้มอยู่ในป่า และยังมีไม้ชิงชันรอการแปรรูปชนิดเหลี่ยมจำนวน 2 ท่อน( ผ่ากลางต้น)
จนท.ชักลากทำได้เพียงชักลากไม้ชิงชันแปรรูปจำนวน 33แผ่นขึ้นรถกระบะมา นำส่งหน่วยฯพล3(หนองกะท้าว) ส่วนไม้ท่อนที่ยังไม่ได้แปรรูป ไม่สามารถชัดลากลงมาจากเขาได้ เนื่องจากอยู่กลางป่ายอดเขา ทิ้งไว้ที่เกิดเหตุบริเวณในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเนินเพิ่ม ส่วนผู้ต้องหาไม่พบ
นายสำรวย ชมบุญ หัวหน้าสายตรวจสายที่1สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก กล่าวว่า การขึ้นบินตรวจป่าครั้งนี้ เพื่อดูป่าไม้ คงอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ โดยเฉพาะป่าชิงชันและ ป่าประดู่ ถือว่า ควรอนุรักษ์ไว้ ขณะที่ภาคอีสาน ไม้พยุงถือว่า มีค่า และมีราคาสูง ส่วนภาคเหนือ ไม้ชิงชันถือว่า ราคาสูงเช่นกัน เนื่องจากเนื้อไม้เหมือนไม้พยุง โดยเฉพาะสีแดงสด อีกทั้งเนื้อไม้ชิงชันมีความแข็ง และเหนียวเป็นที่ต้องการของตลาด