หลังจากเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีลมพายุกระโชกแรง ส่งผลทำให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก พังเสียหายจำนวยหลายหลังคาเรือน โดยเฉพาะที่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 8 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ของนายสำราญ ฉ่ำไกร อายุ 64 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ภาคเหนือ ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน แรงลมได้พัดเอาหลังคาสังกะสีปลิวหลุดออกเกือบทั้งหลัง และสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง ที่นอน ที่อยู่ชั้นบนของตัวบ้านเปียกฝนได้รับความเสียหายทั้งหมด สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
นายสำราญ กล่าวว่า เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ครอบครัวตนเคยประสบเหตุลมพายุพัดบ้านพังมาแล้วครั้งหนึ่ง และมีการซ่อมแซมบ้านไปแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นทุกคนอยู่ใต้ถุนบ้าน จากนั้นมีลมแรงพัดเสียงดัง และพัดสังกะสีหลังคาบ้านเปิด อย่างแรง ทำให้ทุกคนต้องรีบหนีออกจากตัวบ้านทันที โดยตลอดทั้งคืนต้องนอนใต้ถุนบ้านไปก่อน หลังจากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ตนคิดว่าจะดัดแปลงซ่อมแซมตัวบ้านให้เป็นบ้านชั้นเดียว เนื่องจากจุดที่ตนเองปลูกบ้านนั้นเป็นทิศทางลม เบื้องต้นตนประเมินค่าเสียหายไว้ประมาณ50,000 บาท ซึ่งขณะนี้ทางเทศบาลตำบลหัวรอ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองช่างเข้ามาดูแลช่วยเหลือแล้วเป็นการเร่งด่วน
ล่าสุดวันนี้ 9 มิถุนายน 2557 ดาบตำรวจ ชูชาติ ภิวงษ์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 ค่ายเจ้าพระยาจักรี จังหวัดพิษณุโลก ได้นำถุงยังชีพพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ มามอบให้กับนายสำราญ ฉ่ำไกร โดย ดาบตำรวจ ชูชาติ ภิวงษ์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 ค่ายเจ้าพระยาจักรี จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงห่วงใยราษฎรที่ตกทุกข์ได้ยาก จึงได้พระราชทานถุงยังชีพไว้เพื่อให้กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 ได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที 
นายสำราญ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่หน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือตนเองและครอบครัว โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่ทรงพระราชทานความช่วยเหลือครอบครัวตน สร้างความปลื้มปิติเป็นอย่างมาก 
นอกจากนี้นายมังกร กันชู รองนายกเทศมนตรีตำบลหัวรอ พร้อมทีมกองช่างเทศบาลตำบลหัวรอ ได้เดินทางมาสำรวจและให้การช่วยเหลือ โดยเริ่มจากการลื้อบ้านส่วนที่พังเสียหายออก ก่อนทำการปรับปรุง จากบ้าน 2 ชั้นให้เหลือเป็นชั้นเดียว เนื่องจากนายสำราญเกรงว่า อาจได้รับผลกระทบจากลมพายุพัดพังอีกเป็นครั้งที่ 3 อย่างไรก็ตามคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์