วันที่ 8 มิถุนายน 57 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก หลังทราบ ว่า พื้นที่ดังกล่าวมีชาวสวนปลูกทุเรียนสายพันธุ์ใหม่ขึ้นได้เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวของ จังหวัดพิษณุโลก เมื่อเดินทางไปถึง ที่บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 7 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ด้านหน้ามีป้ายสวนทุเรียนติดอยู่ชื่อ สวนหลงรักไทย บริเวณตัวบ้านมีคนงานดูแลสวนกำลังตัดแต่งผลทุเรียนอย่างขมักเขม้น โดยที่มีผลทุเรียนวางอยู่ในตะกร้าวางเรียงราย รอการตกแต่งอยู่ จึงได้เข้าไปสอบถาม คนงานดูแลสวนทุเรียนหลงรักไทยคือนางบุญส่ง พัตศร อายุ 49 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ดังกล่าว
นางบุญส่ง เปิดเผยว่า ตนเองเป็นเพียงคนดูแลสวน โดยสวนทุเรียนแห่งนี้มี นายวรรณชัย กาญจนเพ็ญ เป็นเจ้าของสวนซึ่งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่ง “สวนหลงรักไทย” มีเนื้อที่ 45 ไร่ ปลูกทุเรียนพันธุ์หลงรักไทย จำนวน 500 กว่าต้น และสามารถเก็บผลผลิตได้สูงมากกว่า 1 ตันต่อวัน โดยจะมีพ่อค้า-แม่ค้ามารับไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง ส่วนเอกลักษณ์และจุดเด่นของทุเรียนพันธุ์หลงรักไทยนั้นก็คือ เนื้อทุเรียนจะมีลักษณะเนื้อละเอียดแน่น ไม่เละจนเกินไป สีเหลืองทอง รสชาดหวานและหอมกว่า อร่อยกว่าทุเรียนพันธุ์หลินลับแลหลงลับแล ทั้งที่ต้นพันธุ์มาจากพันธุ์ทุเรียนพันธุ์หลินลับแลหลงลับแล อาจเป็นเพราะบ้านรักไทยสภาพอากาศเย็น ที่ อ.เนินมะปราง แร่ธาตุในดินดีทำให้เนื้อทุเรียนที่นี่อร่อยกว่าที่อื่น และขณะนี้กำลังเป็นต้องการของผู้บริโภคและพ่อค้า ในจังหวัดใกล้เคียง ส่วนในเรื่องของราคาหน้าสวนนั้นจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 120-180 บาท โดยราคาจะขึ้นอยู่กับเกรดของทุเรียน ขณะที่ราคาท้องตลาดช่วงออกใหม่ๆแบบนี้จะสูงถึงกิโลกรัมละ 300 บาท
ทั้งนี้ทุเรียนสายพันธุ์หลงรักไทย ของสวนหลงรักไทย ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ยังถือว่าเป็นรายแรกและรายเดียวของ จ.พิษณุโลก ที่มีการเพาะปลูกจนสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตออกมาให้ประชาชนได้รับประทานกัน คาดว่าจะเป็นอีกจุดที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยว จ.พิษณุโลก เพื่อชมสวนทุเรียนและเลือกซื้อทุเรียนบริโภคกันอย่างคึกคัก 
333————————————————————