เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากภาวะเศรษฐกิจในช่วงนี้ทำให้ราคาสินค้าหลายอย่างต่างพากันขึ้นราคารวมถึงราคาเนื้อหมูที่ขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง กก.ละ 150 บาท แต่มีร้านก๋วยเตี๋ยวหมู ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพิษณุโลก ที่ขายก๋วยเตี๋ยวสวนกระแสในราคาเพียงชามละ 10 บาท เป็นเวลานานกว่า 16 ปี แม้ราคาเนื้อหมูจะปรับขึ้นอย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของนายอนุ แสงชัง อายุ 64 ปี ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 14/7 ถนนธรรมบูชาซอย 5 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งภายในบ้านได้แบ่งของพื้นที่ข้างบ้านเปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวไทย มีโต๊ะให้บริการลูกค้า 3 โต๊ะ โดยมีลูกค้าเดินทางมาทานอย่างต่อเนื่อง
นายอนุ แสงชัง เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว 10 บาท เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเองทำงานที่โรงทอผ้าก่อนที่โรงงานจะปิดตัวลงตั้งแต่ 1พฤษภาคม 2540 หลังจากตกงานช่วงแรกๆ รู้สึกเคว้งคว้างมาก เลยปรึกษากับ นางระเบียบ แสงชัง ภรรยา และตกลงกันว่าจะเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่บ้านพักของตนเอง ตอนที่เปิดร้านใหม่นั้น ตนขายอยู่ในราคา ชามละ 10 บาท ซึ่งสมัยนั้นราคาหมูยังมีราคาถูก(กิโลกรัมละ 50 บาท) ซึ่งรายได้จากการขายก๋วยเตี๋ยวนั้นก็สามารถเลี้ยงครอบครัวสงสัยลูกจนเรียนจบ และมีงานทำกันหมดทุกคน ส่วนวัตถุดิบนั้นตนจะเลือกใช้หมูเนื้อสันอย่างดี ตับหมูอย่างดี ทั้งนี้พริกป่น และถั่วลิสงคั่วบด ตนเองจะและตำกันเอง ส่วนเมนูเด็ดที่ลูกค้าสั่งกันมากที่สุดก็คือ บะหมี่แห้ง ที่ผ่านมาลูกค้าที่เข้ามาทานจะมีทุกเพศทุกวัยและจะมีกลุ่มเด็กนักเรียนวัยรุ่น เคยเข้ามาทานมากที่สุดคนเดียว 10 ชาม ด้วยกัน ก่อนหน้านี้ตนเองเคยจัดโปรโมชั่นสำหรับเด็กนักเรียนถ้ามาทานพร้อมกันเป็นกลุ่มจะใช้โปรโมชั่นทาน 10 ชาม แถว 1 ชาม แต่ช่วงนี้หมูราคาแพงขึ้นจึงยกเลิกโปรโมชั่นไป
นายอนุ เล่าให้ฟังต่อว่า ปัจจุบันตนเองได้ขายก๋วยเตี๋ยวชามละ 10 บาทมานานกว่า 16 ปี ทั้งนี้เคยมีเด็กที่มานั่งทานและจ่ายเงินเป็นเศษเหรียญตนจึงถามว่าไอ้หนูไปเอาเงินมาจากไหนหรอ จึงทราบว่าเด็กคนดังกล่าวได้แคะกระปุกออมสินทาน ตนเองจึงไม่คิดที่จะปรับขึ้นราคาแม้ว่าวัตถุดิบต่างๆจะขึ้นราคาโดยเฉพาะเนื้อหมู จะอยู่ที่ราคา 150 บาท เพราะว่าตนเองอยากช่วยเหลือประชาชนมีรายได้น้อย และยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ด้านนางสุวลักษณ์ ศรีพรหมา อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/15 ถนนเอกาทศรถ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ลูกค้าประจำของร้านเล่าว่า ตนเองเดินทางมาทานก๋วยเตี๋ยวจนเป็นลูกค้าประจำของทางร้านและทานมานานหลายปี เพราะว่าก๋วยเตี๋ยวที่ร้านถึงแม้ว่าราคาจะเพียง 10 บาท แต่รสชาติ และวัตถุดิบที่นำมาใช้ถือว่าคุ้มมากเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเงิน 10 บาท ยิ่งในช่วงภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้แล้ว