เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 พ.ค. 2557 ที่ห้องคอนเวนชั่น โรงแรมท็อปแลนด์พลาซ่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานหอการค้าไทย เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการสัมมนา “SMEs…วิธีทำเงิน” ซึ่งทางหอการค้ากลุ่มภาคเหนือตอนล่างกลุ่มที่ 1 ร่วมกับภาคเอกชนหลายฝ่าย จัดขึ้น เพื่อเสริมสร้างความรู้แก่นักธุรกิจและประชาชนที่สนใจ ในการเข้าถึงธุรกิจ SMEs วิธีการกู้เงิน วิธีการทำธุรกิจ SMEs ให้โตและสร้างเม็ดเงิน และวางแผนด้านธุรกิจ ซึ่งมีประชาชน และนักธุรกิจเข้าร่วมงานจำนวนมาก พร้อมกันนี้ทาง
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานหอการค้าไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยว่าหลังจากที่มีการจ่ายเงินตามโครงการจำนำข้าว ทั้งหมด 90,000 ล้านบาท และงบประมาณปี 2557 ที่เริ่มใช้ได้ ภายใน 1-2 เดือน นี้จะส่งผลให้มีการใช้จ่ายภายในประเทศจะทำให้มีเม็ดเงินกระจายเพิ่มขึ้น 3- 4 เท่า และจะส่งผลดีกับธุรกิจ SMEs ที่น่าจะกระเตื้องขึ้น โดยช่วงที่ผ่านมาอาจทำให้ธุรกิจ SMEs ขนาดเล็กต้องประสบปัญหาในเรื่องเงินหมุนเวียน มีการปิดตัวลงไปบ้าง หลายแห่งหยุดตัว เปลี่ยนอาชีพไปรับจ้าง แต่หลังจากนี้เมื่อมีการจับจ่ายมากขึ้นก็น่าจะทำให้ธุรกิจ SMEs กระเตื้องขึ้น
นอกจากนี้ ประธานหอการค้าไทย ยังกล่าวอีกว่า ทางหอการไทยจะได้ได้ร่วมกับหอการค้ากลุ่มภาคเหนือตอนล่างกลุ่มที่ 1 พัฒนาเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นกับนักธุรกิจต่างชาติ ในการพัฒนาเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะ จังหวัดในกลุ่มหอการค้าภาคเหนือตอนล่างกลุ่มที่ 1 ประกอบด้วย จ.พิษณุโลก ตาก และอุตรดิตถ์ มีพื้นที่ติดกับ 2 ประเทศเพื่อนบ้าน คือ พม่า และลาว ดังนั้นต้องมีการสร้างความร่วมมือกับระหว่างภาคเอกชน และกับภาคการศึกษาในการพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยว การรักษาพยาบาล การค้าชายแดน ที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับนักธุรกิจของไทย และที่สำคัญต้องสร้างความตื่นตัว ความเข้มแข็งให้กับนักธุรกิจของไทย ในการก้าวสู่อาเซียนด้วย
ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวนั้น ประธานหอการค้าไทยกล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยวอาจจะกระทบบ้าง เมื่อเราประกาศกฎอัยการศึกและรัฐประหาร ประเทศอเมริกา หรือยุโรป ถือเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องของประเทศเสรี เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องเตือนนักท่องเที่ยวของเขาอาจจะระงับไว้ก่อน อาจมีผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจากประเทศยุโรปบ้างในหลายประเทศ แต่อยู่ที่การสร้างความมั่นใจ ถ้าเรามีความสงบ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ประเทศไทยอยู่ในใจนักท่องเที่ยวตลอดเวลาอยู่แล้ว