เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 20 พ.ค. 57 ที่ห้องประชุมสโมสรบันเทิงทัพ กองทัพภาคที่ 3 พล.ต.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล รองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้เป็นประธานในการประชุมชี้แจงต่อผู้ประกอบการขนส่ง และเจ้าของและผู้ดูแลสถานีวิทยุชุมชนภายในจังหวัดพิษณุโลก หลังจาก ทาง ผบ.ทบ.ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ เมื่อช่วง 03.00 น. ที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยเกิดขึ้นในบ้านเมือง 
พล.ต.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล รอง แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ตามที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร จึงได้เรียนเชิญมารับฟังคำชี้แจง เพราะมีส่วนสำคัญในการช่วยกันดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของชาติบ้านเมือง ซึ่งประกาศดังกล่าวมีผลให้แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ดูแล 17 จังหวัดภาคเหนือ นอกจากนี้ผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงของกองทัพภาคที่ 3 ไม่ว่าจะเป็นหน่วยระดับกองพล หน่วยระดับมณฑลทหารบก หน่วยระดับจังหวัดทหารบก จะถูกแต่งตั้งให้เป็นกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ
รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวอีกว่า กอ.รส.มีอำนาจในการเชิญให้บุคคลมารายงานตัว เพื่อประโยชน์ในการรักษาความเรียบร้อย จากประกาศกฎอัยการศึก แม้จะยังไม่เกิดเหตุจราจล แต่สถานการณ์ที่ผ่านมามีความรุนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตและทรัพย์สินทางราชการเสียหายจำนวนมาก มีความจำเป็นที่ต้องประกาศกฎอัยการศึก เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย มิให้เหตุบานปลายไปมากกว่านี้ ทั้งนี้มิใช่เป็นการรัฐประหาร แต่มีความมุ่งหมายให้เกิดความสงบเรียบร้อย และนำความสุขกลับคืนมาสู่ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายโดยเร็ว โดยมุ่งหวังให้ทุกฝ่ายหยุดความเคลื่อนไหว เพื่อจะได้ร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศ สำหรับการดำเนินชีวิตของประชาชนทั่วไป และการปฏิบัติหน้าที่ส่วนราชการต่างๆยังเป็นไปตามปกติ แต่ขอความร่วมมือห้ามมิให้มีการเคลื่อนย้ายมวลชนโดยเด็ดขาด หากมีการขัดขืนกระทำการใดๆเกิดความรุนแรงจะต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาดทันที ในส่วนสถานีวิทยุสถานีโทรทัศน์ต่างๆดำเนินรายการตามปกติ แต่ขอให้มีการเชื่อมโยงสัญญาณกับ กอ.รส. เมื่อได้รับการประสาน สำหรับสถานีวิทยุชุมชนห้ามมีการปลุกระดมมวลชนยุยงปลุกปั่น ที่จะเป็นมูลเหตุต่างๆของความไม่สงบเรียบร้อย และที่สำคัญเกี่ยวกับการหมิ่นสถาบันจะถูกปิดทันที สถานีวิทยุชุมชนที่เปิดไม่ถูกกฎหมายขอให้ปิดทันทีห้ามดำเนินการ และ ผู้ชุมนุมทุกฝ่ายทุกกลุ่มให้ยุติการชุมนุมขอให้เดินทางกลับภูมิลำเนา ถ้าขัดขืนจะใช้อำนาจตามกฎหมาย แต่ไม่ใช่การปฏิวัติ หรือรัฐประหาร ทั้งสิ้น