เมื่อเวลา 01.30 น.ของวันนี้( 22 เม.ย.)ร.ต.อ.มนตรี แดงดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งว่ามีคนร้ายงัดธนาคารธนชาติ สาขาราม่า ถนนบรมไตรโลกนาถ อ.เมืองพิษณุโลก และสามารถไปจับตัวคนร้ายไว้ได้ในที่เกิดเหตุ โดยหลังรับแจ้งไปตรวจสอบ ก็พบ ด.ต.วินัย อยู่ปาน และ จ.ส.ต.นิวัฒน์ อรัญมิตร เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ควบคุมตัวคนร้ายไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมชาย แสงจันทร์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 4 ต.คุยม่วง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พร้อมอุปกรณ์งัด เป็นค้อนปอน ขนาดน้ำหนัก 4 ปอน ไขควง หมวกคุมหน้าสีดำแดง รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 S หมายเลขทะเบียน วพย 467 กรุงเทพมหานคร ซึ่งรถจักรยานยนต์นายสมชาย คนร้าย ได้นำสกอตเทปมาปิดหมายเลขและจังหวัดไว้ เพื่ออำพราง
เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ นายสมชาย คนร้าย ได้ใช้ไขควงและค้อนปอน ทุบไปที่กุญแจประตูด้านหน้าธนาคารธนชาติ จนพังเสียหาย และเข้าไปรื้อค้นโต๊ะพนักงานธนาคารและพยายามงัดด้านหลังของตู้เอทีเอ็ม ภายในธนาคารอีกด้วย
ด.ต.วินัย อยู่ปาน สายตรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ กับ จ.ส.ต.นิวัฒน์ อรัญมิตร บริเวณถนนดังกล่าว ก็ได้รับแจ้งจากนายธนัชพนธ์ บัวคล้าย ผู้จัดการธนาคารธนชาติ สาขาดังกล่าว ว่ามีคนร้ายกำลังเข้าไปงัดธนาคาร ตนจึงรีบเข้าไปตรวจสอบ ก็เห็นว่าประตูด้านหน้าธนาคารเปิดออก แต่เข้าไปดูภายในธนาคาร พร้อมกับขอกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม ระหว่างนั้นได้ตะโกนให้นายสมชาย คนร้าย ที่แอบซ้อนตัวภายในธนาคาร ออกมามอบตัวในที่สุด
จากการสอบถามนายสมชาย คนร้ายให้การรับสารภาพว่า ตนได้ติดหนี้ค่างวดส่งรถยนต์ ไว้จำนวน 3 งวด เป็นเงินกว่า 20,000 บาท โดยบริษัทเจ้าหนี้มาทวง ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จะหาเงินจากไหน เนื่องจากทำงานก่อสร้าง ได้เงินไม่พอกิน จึงตัดสินใจยืมรถจักยานยนต์ของพ่อตนเอง ขับขี่มาจากบ้าน ที่ห่างจากตัวเมืองกว่า 30 กิโลเมตร แล้ว โดยก่อนลงมือนั้นได้ขับขี่รถวนอยู่ในตัวเมืองก่อน จนมาเห็นว่าที่ธนาคารธนาชาติ ไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ด้านหน้า จึงตัดสินใจใช้ไขควงและค้อนปอนที่นำมาทุบประตูเข้าไปหาเงินภายในธนาคาร ระหว่างนั้นสัญญาณฉุกเฉิน ของธนาคารดัง ขึ้น ตนเองก็ไปรื้อสายไฟแล้วดึงออกจนสัญญาณเงียบ และไปใช้ไม้กระทุ้งไฟฉุกเฉินด้านหน้าธนาคารดับเช่นกัน จากนั้นก็พยายามไปงัดที่ด้านหลังตู้เอทีเอ็ม ก็ไม่ได้อะไร จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมตัวได้ในที่สุด
///////